ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2559 เจ้าหน้าที่หน่วยอนุรักษ์ป่าไม้บนเกาะสุลาเวสี ประเทศอินโดนีเซีย ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าพบจระเข้น้ำเค็มขนาดใหญ่กำลังต้องการความช่วยเหลือ เนื่องจากส่วนหัวของเขากำลังติดอยู่ภายในยางรถจักรยานยนต์ ก่อนจะเร่งจัดทีมลงพื้นที่เริ่มภารกิจช่วยเหลือจระเข้ผู้โชคร้ายตัวดังกล่าวทันที แต่ทว่าภารกิจกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเมื่อเจ้าหน้าที่ทำจระเข้ผู้โชคร้ายหลุดจากอุปกรณ์ดักจับและปล่อยให้หนีหายไป
.

.
กระทั่งเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา ชาวบ้านในเมืองปาลู บนเกาะสุลาเวสี ก็ได้พบกับจระเข้ผู้โชคร้ายตัวดังกล่าวอีกครั้ง ขณะกำลังนอนอาบแดดอยู่บริเวณริมชายฝั่งแม่น้ำปาลู พร้อมกับยางรถจักรยานยนต์อันเดิมที่ยังคงติดอยู่บนคอของเขาเช่นเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา
.

.
“ตีลี” (Tili) ชายผู้ค้านกวัย 34 ปี เป็นผู้พบเห็นจระเข้ผู้โชคร้ายเป็นคนแรกและเขาก็ไม่เพิกเฉย ได้เสี่ยงช่วยจระเข้ตัวดังกล่าวด้วยตัวเองหลายครั้ง ตีลีเล่าว่าเขาเคยพยายามจะจับจระเข้ผู้โชคร้ายอยู่นานหลายวันโดยใช้ไก่เป็นเหยื่อล่อแต่ทว่ากลับไม่สำเร็จ กระทั่งได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านอีกหลายคนเข้ามาช่วยจึงสามารถจับจระเข้ผู้โชคร้ายเอาไว้ได้!
.
“ผมแค่อยากช่วยเขาแค่นั้น ผมเกลียดการเห็นสัตว์ป่าต้องถูกกักขังและทรมาน”
ตีลีกล่าวกับสำนักข่าว The Guardian ประเทศอังกฤษ
.

ตีลีโชว์ยางรถจักรยานยนต์ที่ถูกนำออกจากคอของจระเข้
.
ตีลียังเล่าต่อว่า ในวันนั้นความพยายามในการช่วยเหลือจระเข้ตอนแรกเกือบจะไม่สำเร็จ เนื่องจากเชือกไม่แข็งแรงพอจนทำให้จระเข้ผู้โชคร้ายตกใจกลัวพยายามดิ้นสะบัดตัวอย่างแรงจนเชือกขาดและเกือบหลุดหนีไป เขาจึงรีบเร่งเปลี่ยนมาใช้เชือกไนลอนเส้นใหญ่สำหรับลากเรือแทน
.
“ผมใช้แรงทั้งหมดที่มีเพื่อช่วยเหลือเขา จระเข้ตัวนั้นตัวขนาดใหญ่ แข็งแรงและพลังเยอะมากจนไม่น่าเชื่อ ทุกคนที่มาช่วยต่างพากันเหงื่อตกกันเป็นแถวเพราะหมดแรง พวกเราพยายามจะช่วยกันทำให้เขาอยู่ในความควบคุม”
ตีลีกล่าว
.
หลังจากจับตัวจระเข้ตัวใหญ่และช่วยกันออกแรงลากขึ้นฝั่งได้สำเร็จแล้ว ชาวบ้านก็ช่วยกันตัดยางรถจักรยานยนต์ที่อยู่บนคอจระเข้มานานกว่า 5 ปีออก ซึ่งในระหว่างนั้นชาวบ้านก็ได้วัดความยาวลำตัวจระเข้ผู้โชคร้ายก่อนพบว่ามีความยาวมากถึง 5 เมตรเลยทีเดียว
.
เมื่อยางรถจักรยานยนต์ถูกตัดออกจระเข้ตัวใหญ่ก็ถูกปลดปล่อยและได้รับอิสรภาพ ชาวบ้านช่วยปลดเชือกให้กับจระเข้ก่อนจะปล่อยกลับสู่แม่น้ำท่ามกลางเสียงตะโกนโห่ร้องด้วยความปีติยินดีและใบหน้าที่เปื้อนยิ้มมีความสุขของชาวบ้านหลายสิบคนที่มาช่วยและเฝ้าให้กำลังใจอยู่ห่าง ๆ
.

.

.
ด้านนักอนุรักษ์เชื่อว่าการที่จระเข้เข้าไปติดอยู่ในยางรถจักรยานยนต์ไม่ใช่เพราะความโชคร้ายหรือความบังเอิญที่เกิดขึ้นได้ในธรรมชาติ แต่ทว่าอาจเกิดจากความพยายามของพรานป่าที่พยายามจะจับจระเข้ตัวดังกล่าวเพื่อนำไปเป็นสัตว์เลี้ยงแต่ทว่าทำไม่สำเร็จ
.
ตีลียังแสดงความคิดเห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยว่า เขาไม่สามารถพึ่งพาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้เนื่องจากเขาทราบดีว่า เจ้าหน้าที่ไม่มีอุปกรณ์ที่มีคุณภาพและเพียงพอสำหรับภารกิจช่วยเหลือที่เสี่ยงอันตรายแบบนี้ ขณะที่ตัวเขาและชาวบ้านอีกหลายคนก็ไม่อาจจะนิ่งเฉยจึงร่วมมือกันเสี่ยงช่วยจระเข้ผู้โชคร้ายกันเองตามอัตภาพ
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.