ไม่มีใครที่สำนักงานบริหารจัดการที่ดิน Bureau of Land Management’s (BLM) ในรัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา เคยเห็นแม่ม้าให้กำเนิดลูกแฝดมาก่อนเลย... แต่ในเช้าของวันหนึ่งพวกเขากลับได้เจอกับ “เอลซ่า” (Elsa) แม่ม้าป่าที่เพิ่งจะถูกต้อนเข้ามาดูแลในเขตพื้นที่ของสำนักงานฯ มีลูกม้าตัวน้อย 2 ตัวยืนอยู่ใกล้ๆ ใช่แล้วพวกเขาเป็น “ลูกแฝด” ของเอลซ่าแม่ม้าป่าผู้แข็งแกร่งที่ได้ให้กำเนิดลูกน้อยทั้งสองด้วยตัวเอง

.
มันเป็นเรื่องยากมากๆ สำหรับแม่ม้าป่าที่จะให้กำเนิดลูกแฝดแล้วรอดชีวิต มีเพียง 1 ใน 10,000 เท่านั้นที่จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ยิ่งในกรณีที่ม้าป่าให้กำเนิดลูกน้อยด้วยตัวเองโดยไม่มีสัตวแพทย์ช่วยเหลือด้วยนับเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไม่ไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เจ้าหน้าที่สำนักงานฯ หลายคนสงสัยว่าเอลซ่าสามารถเอาตัวรอดจากความเจ็บปวดที่จะต้องให้กำเนิดลูกน้อยทั้งสองมาได้อย่างไร!

.
สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนปาฏิหาริย์เมื่อเอลซ่าสามารถคลอดลูกแฝดตัวไม่น้อยทั้งสองได้อย่างปลอดภัย โดยปราศจากความช่วยเหลือจากสัตวแพทย์

.
เจ้าหน้าที่สำนักงานฯ รู้ว่าครอบครัวเล็กๆ ของเอซ่าจะต้องได้รับความช่วยเหลือเป็นพิเศษในระยะนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงติดต่อไปยัง “แคลร์ สเตเปิล” (Clare Staples) ผู้ก่อตั้งองค์กรช่วยเหลือม้าป่า Skydog Ranch ให้เข้าช่วยเหลือครอบครัวเล็กๆ นี้ด้วย
.
“ลูกม้าตัวหนึ่งมีขนาดเล็กและดูอ่อนแอกว่าอีกตัวมาก เจ้าหน้าที่สำนักงานฯ เป็นห่วงว่าลูกม้าตัวที่กล่าวถึงอาจจะไม่มีชีวิตรอด พวกเขาจึงติดต่อมาขอความช่วยเหลือกับเรา ให้พาลูกแฝดของเธอมาดูแล ในระยะนี้ก่อน ซึ่งนั้นทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อได้ทราบข่าวนี้ และเราเองก็ยินดีที่จะให้การช่วยพวกเขาอย่างเต็มที่เช่นกัน”
แคลร์กล่าว
.
หลังจากที่ได้รับแจ้งจากนั้นอีกเพียงไม่กี่วันแคลร์ก็เดินทางไปที่รัฐโอเรกอนสถานที่ที่เอลซ่าและลูกๆ ของเธออยู่ เมื่อไปถึงแคลร์เข้าไปนั่งใกล้ๆ กับเอลซ่าพร้อมกับให้คำมั่นสัญญากับเธอว่าจะดูแลลูกน้อยทั้งสองให้ดีที่สุด
.
“ฉันพูดกับเธอว่า ‘อีกไม่นานคุณจะได้ออกไปจากที่นี่และได้อยู่ดูแลลูกน้อยทั้งสองอีกครั้งด้วยตัวของเธอเอง’ แข็งใจไว้นะ ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย”
แคลร์กล่าว
.
แต่หลังจากที่แคลร์พาลูกม้าฝาแฝดทั้งสองกลับไปดูแลได้เพียงแค่ไม่นานนัก เจ้าหน้าที่สำนักงานฯ ก็พาเอลซ่าย้ายไปอยู่ที่คอกแห่งใหม่เพื่อให้เธอได้ทดลองใช้ชีวิตในคอกที่พวกเขาสร้างขึ้น แต่ทว่าแคลร์ไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่สำนักงานฯ ย้ายเอลซ่าไปดูแลที่อื่น เธอพยายามติดต่อไปเพื่อขอร้องให้เจ้าหน้าที่สำนักงานฯ ดูแลเอลซ่าไว้ต่อ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนใจพวกเขาได้...
.
เดือนถัดมา...แคลร์ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่สำนักงานฯ พร้อมยื่นข้อเสนอมอบโอกาสให้เธอเป็นผู้อุปการะเอลซ่า แน่นอนว่านั่นทำให้แคลร์รู้สึกดีใจมากที่สุด เธอไม่รีรอตอบตกลงในทันทีและอีกไม่นานฝาแฝดทั้งสองจะได้พบหน้าแม่ของพวกเขาอีกครั้งแล้ว อย่างที่แคลร์เคยให้สัญญาไว้!
.
ในที่สุด วันที่สามแม่ลูกจะได้กลับมาพบหน้ากันก็มาถึง วินาทีการได้พบหน้ากันอีกครั้งของครอบครัวเล็กๆ หลังต้องพรากจากกันและเกือบจะไม่มีโอกาสได้พบหน้ากันอีกแล้วก็เกิดขึ้น มันเป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจที่สุด และเกินกว่าสิ่งที่แคลร์เคยคาดหวังเอาไว้มาก พวกเขาไม่ได้แสดงออกต่อกันมากนักในตอนแรก แต่ด้วยสัณชาตญาณทำให้พวกเขารับรู้ถึงการเป็นครอบครัวเดียวกัน แสดงความรักต่อกันอย่างเรียบง่ายเช่นม้าป่าผู้แข็งแกร่ง...ทว่าบรรยากาศช่างอบอุ่นและสัมผัสได้ถึงความสุขที่เอ่อล้น...
.
“ลูกม้าตัวแรกได้เจอกับแม่ของเธอก่อน แต่เอลซายังไม่แน่ใจจริง ๆ ว่านั่นเป็นลูกของเธอ เพราะพวกเขาแยกจากกันมานานสองสามเดือนแล้ว ลูกของเธอเปลี่ยนไปมาก แต่เมื่อลูกม้าตัวที่สองปรากฎตัวเอลซ่าก็เริ่มจดจำลูกๆ ของเธอได้ ก่อนที่จะพาลูกๆ ของเธอวิ่งไปรอบๆ เพื่อเฉลิมฉลอง”
แคลร์กล่าว
.

.

.
“มันเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้พบ ลูกฝาแฝดทั้งสองไม่ได้ลืมแม่ของเขาเลย”
แคลร์กล่าว
.

.
หลังจากที่เด็กฝาแฝดทั้งสองเติบโตขึ้นและแข็งแรงมากพอ แคลร์จะพาพวกเขาเข้าร่วมกับฝูงม้าที่เธอดูแลอยู่ ม้าแฝดจะได้มีลุงและป้าคอยช่วยดูแล ซึ่งหลังจากนั้นเมื่อทุกอย่างพร้อมม้าป่าทั้งฝูงจะถูกพาไปส่งที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ที่นั่นมีพื้นที่กว้างใหญ่นับหมื่นไร่ พวกเขาจะสามารถใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบสุขและมีอิสระที่นั่น
.
สำหรับตอนนี้ลูกม้าฝาแฝดทั้งสองยังคงตามติดแม่ ส่วนคุณแม่เอลซ่าเองก็ไม่ยอมปล่อยให้ลูกๆ คลาดสายตาของเธอเลย เธอพาลูกๆ วิ่งฝ่าเนินดินและแม่น้ำ กระโดดและเล่มหญ้า เอลซ่ากำลังสอนทักษะการใช้ชีวิตที่จำเป็นให้กับลูกๆ ของเธอ คอยเติมเต็มส่วนที่ขาดชดเชยความรักให้กันและกันหลังจากที่ต้องพรากจากกันนานหลายเดือน...

.
“พวกเขาขี้เล่น ชอบผจญภัยและอยากรู้อยากเห็น แต่ถ้าพวกเขารู้สึกกลัวก็จะรีบวิ่งกลับไปหาแม่เอลซ่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นพลังงานความรักที่สวยงามจริงๆ ”
แคลร์กล่าว
.
รับชมคลิป
.
ขอบคุณข้อมูลจาก The Dodo, Skydog Ranch
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.