การเดินทางลงพื้นที่เพื่อรายงานข่าวการอนุรักษ์ช้างป่า ในเขตพื้นที่ป่าแอฟริกาซึ่งกำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายเป็นเรื่องราวจริงจังและน่ากังวลใจไม่ใช่เรื่องขำขัน แต่ทว่าการรายงานข่าวท่ามกลางช้างป่าที่เป็นมิตรทำให้ “อัลวิน คาอุนดา” (Alvin Kaunda) ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว KBC News ประเทศเคนยา ต้องรับมือกับสถานการณ์เกินควบคุมจนเป็นเหตุให้เกิดเรื่องราวไม่คาดฝันชวนอมยิ้ม ทำให้เนื้อหาข่าวที่เคร่งเครียดในวันนั้นผ่อนคลายลงมาก ภายหลังการเผยแพร่ภาพข่าวยังช่วยทำให้ผู้คนจำนวนมากหันมาสนใจ และตระหนักถึงความเดือดร้อนของเพื่อนสัตว์ตัวโตที่กำลังต้องการการปกป้องจากเพื่อนมนุษย์ได้อีกด้วย
.
เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา อัลวินมีโอกาสเดินทางลงพื้นไปยัง Sheldrick Wildlife Trust ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือและฟื้นฟูสัตว์กำพร้าในเคนยา เพื่อรายงานข่าวการอนุรักษ์ช้างป่าแอฟริกา โดยที่เขาไม่รู้เลยว่ามีบททดสอบที่ท้าทายและยากยิ่งรออยู่ สำหรับการเป็นนักข่าวมืออาชีพที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ให้ดูน่าเชื่อถือตลอดเวลา
.
ขณะอัลวินกำลังรายงานข่าวกล่าวถึงปัญหาและแนวทางการอนุรักษ์ช้างแอฟริกา โดยมีโขลงช้างที่ถูกช่วยเหลือและอยู่ในความดูแลของ Sheldrick Wildlife Trust ยืนอยู่เบื้องหลัง จู่ ๆ งวงปริศนาของลูกช้างตัวหนึ่งก็โผล่เข้ามาใกล้ ๆ ใบหน้าของเขาก่อนจะย้ายขึ้นไปอยู่บนหัว อัลวินมีอาการตกใจเล็กน้อยพยายามควบคุมสติ ด้วยความสุดคุมเพื่อทำหน้าที่รายงานข่าวต่อ...
.
แต่ลูกช้างที่ซุกซนกลับไม่ยอมหยุดพยายามสัมผัสหัวอัลวินเบา ๆ ก่อนจะจับโยกไปมา ซึ่งนั่นทำอัลวินช็อตฟิลเซอร์ไพรส์สุด! เพราะคาดไม่ถึงว่าลูกช้างป่าจะเป็นมิตร อารมณ์ดีและขี้เล่นได้มากแบบนั้น อัลวินพยายามปั่นหน้าเข้มกลั้นขำสุดแรงเกิดทว่าสุดท้ายก็เกินจะเก็บซ่อนความรู้สึก! หลุดขำพรวดยอมแพ้ต่อความขี้เล่นของลูกช้างป่าผู้น่ารัก อย่างไรก็ตามนั่นกลับไม่ได้ทำลูกช้างป่าซุกซนน้อยลง เสียงหัวเราะของอัลวินยิ่งทำให้ลูกช้างได้ใจใช้งวงจับหัวเขาอย่างไม่เคอะเขินเหมือนในตอนแรกก่อนจะโยกเล่นสนุก
.
.
ลูกช้างป่วนจนไม่สามารถรายงานข่าวต่อได้ การรายงานจึงถูกตัดจบพร้อมข้อมูลสำคัญจากอัลวินว่า Sheldrick Wildlife Trust ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการดูแลลูกช้างป่ากำพร้ามากกว่า 300 ตัว เจ้าหน้าที่ทุกคนที่นี่กำลังอุทิศทั้งชีวิตเพื่อปกป้องช้างป่าผ่านปฏิบัติการเพื่อต่อต้านการรุกล้ำที่น่ากังวลใจ
.
.
ถึงแม้ว่าอัลวินจะถูกแกล้งจนไม่สามารถรายงานข่าวต่อได้จนจบ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เหล่าช้างป่าพวกเขาน่ารักและสมควรได้รับการปกป้องจากเพื่อนมนุษย์!
.
.
กองทุนสัตว์ป่าโลกเผยว่า ช้างป่าแอฟฟริกากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ “เสี่ยงขั้นวิกฤติต่อการสูญพันธุ์” สาเหตุหลักที่ทำให้จำนวนช้างป่าแอฟริกาลดน้อยลงจนเข้าสู่ระดับวิกฤติสาเหตุจากการถูกล่าโดยมนุษย์
.
รายงานจากองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ IUCN พบว่า ช้างป่าแอฟริกาอย่างน้อย 2 สายพันธุ์ ถูกล่าเพื่อเอางาและถูกรุกล้ำพื้นที่อยู่อาศัยจนเป็นเหตุให้พวกเขาตกอยู่ในภาวะ “เสี่ยงสูงที่จะสูญพันธุ์”
.
"เบน โอกิตะ" ผู้เชี่ยวชาญด้านช้างป่าแอฟริกา IUCN ระบุว่า เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจมากเมื่อช้างป่าแอฟริกาถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “สีแดง” หรือ "เสี่ยงสูญพันธุ์" เพราะนั่นมีหมายความว่าในอนาคตข้างหน้านี้ พวกเขาอาจจะไม่หลงเหลืออยู่ในป่าและมีเพียงชื่อให้ลูกหลานจดจำเท่านั้น
.
รายงาน IUCN ก่อนหน้านี้ยังได้ระบุอีกว่า ประชากรช้างป่าแอฟริกาในทุ่งหญ้าสะวันนาลดลงอย่างน้อย 60% ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ช้างป่าแอฟริกาในป่าก็ลดลงมากถึง 86% ในช่วง 31 ปีที่ผ่านมาด้วย นั่นทำให้คำนวณแล้วมีช้างป่าแอฟิกาเหลืออยู่ราว 415,000 ตัวเท่านั้น ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อวิกฤตนี้มากที่สุดคือแหล่งที่อยู่อาศัย ซึ่งได้กลายเป็นภัยคุกคามรุนแรงที่นับวันยิ่งน่ากังวลใจ
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
