เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาขณะที่ “แดนีเล มิแรนด้า” (Daniele Miranda) กำลังเดินทางไปทำงานด้วยการโดยรถประจำทาง ในเมืองเรซีฟีทางตอนเหนือของประเทศบราซิลเหมือนเช่นทุกๆ วัน แต่ในวันนั้นระหว่างทางจู่ๆ พนักงานขับรถก็หยุดรถอย่างกะทันหัน ด้วยความสงสัยแดนีเลจึงพยายามชะเง้อมองไปที่บริเวณด้านหน้ารถเพื่อหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น... ก่อนแดนีเลจะได้เห็นภาพเหลือเชื่อเกิดขึ้นกลางถนนเบื้องหน้ารถ... สลอธตัวหนึ่งกำลังค่อยๆ ก้าวเท้าเดินอย่างเชื่องช้าพยายามจะข้ามไปอีกฝั่งของถนนในขณะที่บนถนนกำลังมีการจราจรวุ่นวาย เห็นได้ชัดว่าสลอธตัวดังกล่าวกำลังหลงทางและเดินมาไกลจากบ้านของเขามาก... ชุมชนเมืองที่เติมไปด้วยผู้คนและการจราจรที่วุ่นวายไม่ปลอดภัยสำหรับสลอธที่เชื่องช้าและเขาก็ไม่ควรมาอยู่ที่นี่ตอนนี้ด้วย
.
เป็นความโชคดีของสลอธผู้หลงทางที่กำลังตกอยู่ในอาการหวาดกลัว เมื่อได้พบกับมนุษย์เมืองใจดีและมีน้ำใจยอมสละเวลาในชั่วโมงเร่งด่วน เสี่ยงลงจากรถเข้าไปช่วยพาออกจากถนนที่วุ่นวายมาอยู่ในจุดที่น่าจะปลอดภัยกว่า...
.
การช่วยเหลือเริ่มต้นขึ้นจากความเป็นห่วงและกังวลใจ... หากปล่อยให้สลอธสัตว์ป่าที่รักสงบและเคลื่อนไหวเชื่องช้าอยู่บนถนนต่อเปอร์เซ็นต์ที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุก็มีมากขึ้น ซึ่งมันอาจจะตามมาด้วยการสูญเสียที่คาดไม่ถึง แน่นอนไม่มีใครต้องการให้เกิดเรื่องร้ายแบบนั้น หรือถ้าโชคดีหน่อยสลอธก็อาจจะรอดและสามารถข้ามถนนไปอีกฝั่งได้ แต่ทว่านั่นก็ทำให้การเดินหาทางกลับบ้านสู่เขตป่าที่จากมาเป็นเรื่องยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะทางที่เขากำลังมุ่งหน้าไปทำให้ยิ่งไกลไปจากเขตป่าเข้าทุกที
.
สลอธหลงทางจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากใครสักคน และในตอนนั้นก็มีมนุษย์จิตใจดีที่ไม่อาจจะละเลยเพื่อนสัตว์ที่กำลังหวาดกลัวได้ พวกเขาคือพนักงานขับรถและพนักงานเก็บตั๋วโดยสารบนรถประจำทางที่แดนีเลกำลังโดยสารอยู่ แต่ทว่าในตอนนั้นเป็นเวลางานพวกเขายังต้องปฎิบัติหน้าที่ดูแลผู้โดยสารบนรถอีกหลายสิบคนอยู่ อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วพนักงานขับรถก็ตัดสินใจหยุดรถกะทันหัน ก่อนที่จะเปิดประตูให้พนักงานเก็บตั๋วโดยสารอีกคนเร่งกระโดดลงจากรถไปอุ้มสลอธขึ้นมาบนรถ และค่อยคิดวางแผนว่าจะช่วยสลอธหลงทางต่อไปอย่างไร
.
เนื่องจากที่นั่งเต็มทำให้สลอธต้องโหนรถไปก่อน... หลังจากจอดรับผู้โดยสารแปลกหน้าขึ้นมาบนรถแล้ว พนักงานขับรถก็ออกเดินทางอีกครั้ง

.
“พนักงานบนรถประจำทาง พวกเขาเป็นคนดีมาก, ตามจริงแล้วพนักงานขับรถไม่ต้องสนใจและขับผ่านสลอธไปเลยก็ได้นะ แต่เขากลับไม่ทำแบบนั้น เขาเลือกที่จะหยุดรถและช่วยสลอธหลงทาง”
แดนีเลกล่าว
.

.
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผู้โดยสารหลายคนอมยิ้มและรู้สึกตื่นเต้นกับเพื่อนแปลกหน้าผู้ร่วมเดินทางคนใหม่ หลายคนรีบหยิบสาร์ตโฟนขึ้นมาบันทึกภาพเอาไว้ด้วย เพราะต้องการบันทึกภาพความน่ารักและหลักฐานเอาไว้... มันคงเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อและขำขันหากเล่าให้เพื่อนร่วมงานฟังว่า วันนี้พวกเขาเดินทางมาทำงานพร้อมกับสลอธบนเที่ยวรถโดยสารประจำทางที่มีผู้โดยสารแน่นเต็มคันรถ
.
ตลอดการเดินทางไปทำงานของแดนีเล สลอธผู้โดยแปลกหน้าไม่ได้สร้างความรำคาญใจหรือถูกรบกวนจากผู้โดยสารคนอื่นๆ เลย เขาโหนราวจับอยู่ในตำแหน่งเดิมอย่างสงบเสงี่ยมราวกับเป็นหนึ่งในผู้เดินทางที่ใช้บริการรถโดยสารคันนี้ประจำ อย่างไรก็ตามเขาก็มีความต่างจากผู้โดยสารคนอื่นๆ บ้างเล็กน้อยนั่นก็คือ เขาไม่ได้แค่โหนราวจับแต่ทว่าเขาปีนขึ้นไปนั่งบนนั้นด้วย!

.
“ฉันไม่เคยเห็นสลอธใกล้ๆ มาก่อนเลย ฉันโชคดีมากที่วันนั้นเขาขึ้นมาร่วมโดยสารบนรถคันเดียวกับเรา เขามีมารยาทและสงบเสงี่ยมมากเลยนะ”
แดนีเลกล่าว
.
ในที่สุดรถโดยสารประจำทางก็แล่นมาถึงป้ายสุดท้าย ผู้โดยสารทั้งหมดลงจากรถรวมถึงแดนีเลด้วย แต่มีเพียงสลอธเท่านั้นที่ยังคงอยู่บนรถต่อ ทันทีที่แน่ใจว่าผู้โดยสารทั้งหมดได้ลงจากรถแล้ว พนักงานขับรถก็เร่งโทรแจ้งหน่วยงานช่วยเหลือสัตว์ป่าในท้องถิ่นเพื่อขอความช่วยเหลือให้พวกเขาเร่งมารับตัวผู้โดยสารหลงทางที่ยังไม่ได้จ่ายค่าตั๋วเดินทางกลับไปดูแลต่อ หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์ป่าก็เดินทางมาถึงและพาสลอธหลงทางกลับไปดูแลต่อ...

.
ตอนนี้สลอธหลงทางได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์ป่า ร่างกายของเขายังอ่อนแอและขาดน้ำดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องอยู่ที่ศูนย์ฯ จนกว่าร่างกายจะกลับมาแข็งแรงดีและพร้อมที่จะกลับเข้าไปใช้ชีวิตในป่าอีกครั้ง

.
ภายหลังเรื่องราวการมนุษย์ใจดีและมีน้ำใจช่วยเหลือสลอธหลงทางก็ได้ถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์และได้รับความสนใจจากผู้คนบนโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก ข้อความเกือบทั้งหมดชื่นชมพนักงานบนรถโดยสารประจำทางรวมถึงแดนีเลด้วยที่ได้แบ่งปันเรื่องราวดีๆ ทำให้วันที่แสนธรรมดาของพวกเขาดูสดใสและพิเศษขึ้นมาก
.
“ขอบคุณพระเจ้าที่ช่วยชีวิตสลอธตัวนั้นเอาไว้”
แดนีเลกล่าว
.
เกร็ดความรู้เก็บมาฝาก
สลอธ (Sloth) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดกลางอาศัยอยู่บนต้นไม้ในป่าอเมริกากลางและทวีปอเมริกาใต้ พวกเขาขึ้นชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนที่ได้ช้า ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “Sloth” (แปลว่า เฉื่อยชา) สลอธอาศัยอยู่บนต้นไม้เป็นหลัก ใน 1 วัน พวกเขาจะใช้เวลาในการนอนราวๆ 20 ชั่วโมง กิจวัตรต่างๆ ทั้งกิน นอน สืบพันธุ์ เลี้ยงลูกจะอยู่บนต้นไม้ทั้งหมด

.
ความเร็วของสลอธปกติจะเคลื่อนที่ได้เพียง 15 - 30 เซนติเมตรต่อนาที หากมีภัยอันตรายสลอธสามารถเร่งความเร็วได้ถึง 4.5 เมตรต่อนาที (เร่งแล้วจริงๆ นะ) และบนตัวของสลอธหนึ่งตัวอาจจะเป็นที่อยู่ของผีเสื้อกลางคืน แมลงเต่าทอง แมลงสาบ ซิลิเอต เห็ดราและสาหร่ายได้ด้วยนะ

.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.