“บิอันคา แคโรไลน์ ซอเรส”(Bianca Caroline Soares) นักอนุรักษ์สาวผู้หลงใหลการออกเดินสำรวจธรรมชาติในผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์มีความหลากหลายทางชีวภาพในประเทศปารากวัย ช่วงเวลาที่ผ่านมาบิอันคาเดินสำรวจป่าที่อยู่ใกล้บ้านของเธอมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นและแปลกใจเมื่อได้เห็นรังของนกฮัมมิงเบิร์ดจำนวนมากที่อยู่บนต้นไม้น้อยใหญ่สักเท่าไหร่นัก แต่ทว่าเมื่อช่วงฤดูใบผลิที่เพิ่งจะผ่านพ้นมาไม่นานนี้ บิอันคาได้พบกับรังนกฮัมมิงเบิร์ดที่ดูแตกต่างและไม่เคยเห็นมาก่อน... ซึ่งมันทำเธอให้รู้สึกตื่นเต้นมากและแน่นอนว่าเธอก็ไม่พลาดที่จะบันทึกภาพนั้นเอาไว้ด้วย...
.
สิ่งที่ทำให้รังนกที่บิอันคาได้เห็นดูแตกต่างและน่าสนใจมากกว่ารังของนกฮัมมิงเบิร์ดตัวอื่นๆ นั้นก็เพราะว่า "รังนี้มีหลังคาส่วนตัว"
.
บิอันคารู้สึกประทับใจกับรังน้อยๆ ที่ดูน่ารักนี้ตั้งแต่แรกเห็น เธอพูดอะไรไม่ออก...สิ่งเดียวที่เธอรู้ในตอนนั้นคือต้องพยายามเดินเข้าไปใกล้รังนั้นให้มากกว่านี้เพื่อจะได้มองเห็นบ้านหลังเล็กของนกฮัมมิงเบิร์ดช่างคิดได้ชัดเจนขึ้น... เธอรักษาระยะห่างเดินเข้าไปอย่างเงียบๆ ด้วยความเกรงใจเจ้าของบ้าน บิอันคารู้สึกประทับใจและชอบบ้านหลังเล็กที่อยู่ตรงหน้ามากๆ แน่นอนเธอไม่พลาดที่จะยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาปรับโฟกัสก่อนกดชัตเตอร์บันทึกภาพที่ดูน่ารัก บ้านดีไซน์เก๋ๆ กลางป่าไว้เป็นความทรงจำด้วย
.
“วันนั้นฉันเห็นรังของนกฮัมมิงเบิร์ดทั้งหมด 5 รัง แต่รังที่ฉันเห็นอยู่ตรงหน้า เป็นรังที่น่ารักและดูฉลาดมากที่สุด ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยนะ”
บิอันคากล่าว
.
รังนกน้อยสร้างอยู่ใต้ใบไม้ใบโตในตำแหน่งที่พอเหมาะพอดีคล้ายกับว่าเป็นความตั้งใจ ใบไม้ใบนั้นทำหน้าที่เป็นหลังคาช่วยบังแดด บังฝน ให้กับครอบครัวนกฮัมมิงเบิร์ดที่กำลังใช้ชีวิตอยู่ภายในรัง ดูเหมือนว่ารังของพวกเขาจะเป็นบ้านหลังเล็กๆ ที่น่าอยู่ อบอุ่นและปลอดภัยกว่าบ้านหลังไหนๆ เลยน่ะ นับว่าเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวมากเลยจริงๆ ว่าไหมครับ
.
บิอันคารู้สึกประทับใจกับรังนกน้อยมาก เธอจึงมักจะหาโอกาสแวะเวียนไปเยี่ยมครอบครัวนกฮัมมิงเบิร์ดเจ้าของรังนั้นอยู่เสมอๆ และทุกครั้งเธอจะบันทึกภาพน่ารักๆ ขณะที่พวกเขากำลังใช้ชีวิตประจำวันอยู่ในรังเอาไว้ด้วย
.
กระทั่งวันหนึ่งบิอันคาได้กลับไปเยี่ยมพวกเขาที่รังในป่าอีกครั้ง และเธอก็ได้พบหน้ากับลูกนกตัวน้อยสมาชิกใหม่ของครอบครัวฮัมมิงเบิร์ดด้วย เด็กๆ ตัวโตขึ้นมากและกำลังส่งเสียงร้องเรียกหาแม่ของพวกเขาอยู่ เด็กน้อยทั้งสองอยู่อย่างสุขสบายในรังโดยไม่ต้องกังวลใจว่าจะถูกแสงแดดสาดส่องหรือโดนเม็ดฝนโรยรินลงมาทำให้ตัวเปียกชุ่ม เพราะแม่ของพวกเขาทั้งฉลาด ช่างคิด ช่างเลือกทำเลสร้างรังใต้ใบไม้ใบโตที่ทำหน้าที่เสมือนหลังคาช่วยปกป้องพวกเขาจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป เธอเป็นยอดคุณแม่นกฮัมมิงเบิร์ดดีไซน์เนอร์มีปีกที่กล้าจะแตกต่าง...
.
“เธอมีลูกน้อยสองตัวเลย”
บิอันคากล่าว
.
ถึงแม้ว่ารังของพวกเขาเริ่มจะผิดรูปและดูเหมือนจะใช้งานได้อีกไม่นานนัก... แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะเพราะบ้านหลังเล็กๆ หลังนี้พวกเขาจะอาศัยอยู่อีกเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น เพราะลูกนกเกือบจะโตพร้อมออกบินและเผชิญโลกกว้างได้เองแล้ว
.
ปรกติแล้วแม่นกฮัมมิงเบิร์ดจะกกไข่นาน 14 วัน ก่อนที่ลูกๆ ของเธอจะฝักออกมาเป็นตัว หลังจากนั้นแม่นกก็จะดูแลลูกๆ ของเธอไปนานอีกประมาณ 18 - 25 วัน จนกระทั่งลูกนกร่างกายแข็งแรงและมีประสบการณ์มากพอ เมื่อทุกอย่างพร้อมครอบครัวเล็กๆ ก็จะแยกออกไปมีชีวิตและสร้างรังของตัวเองอีกครั้ง
.
บิอันคากล่าวว่า เธอหวังว่าการได้เห็นภาพครอบครัวที่น่ารักๆ กับรังที่ได้รับการออกแบบอย่างชาญฉลาดของแม่นกจะทำให้ผู้คนหันมาตระหนักและให้ความสำคัญกับธรรมชาติมากขึ้น ร่วมมือกันอนุรักษ์ป่าบ้านหลังใหญ่ของเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ นกฮัมมิงเบิร์ดคือหนึ่งในสมาชิกของมวลหมู่สัตว์ป่าที่กำลังแสดงให้มนุษย์เราเห็นว่าพวกเขากำลังต้องการ กำลังพยายามเพียงแค่เพื่อมีและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขตามวิถีในบ้านที่แสนอบอุ่นของพวกเขาได้ตลอดไปเท่านั้น...
.
ความคิดของแม่นกช่วยให้ครอบครัวเล็กๆ ของเธออาศัยอยู่ในรังได้สุขสบายขึ้น บิอันคาเชื่อว่าลูกๆ ทั้งสองของแม่นกจะต้องเติบโตขึ้นเป็นนกโตเต็มวัยที่แข็งแรงที่สุดตัวหนึ่งได้อย่างแน่นอน บิอันคายังได้ข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับการใช้ชีวิตจากการสร้างรังของแม่นกฮัมมิงเบิร์ดด้วย นั่นก็คือ “การวางแผน”
.
เกร็ดความรู้เก็บมาฝาก
ฮัมมิงเบิร์ดเป็นนกซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในทวีปอเมริกา จัดเป็นนกที่มีขนาดเล็กที่สุดชนิดหนึ่งมีสายพันธุ์มากถึง 325 สายพันธุ์ โดยส่วนใหญ่มีความยาวได้ 7.5 –13 เซนติเมตร "ฮัมมิงเบิร์ดผึ้ง" เป็นสายพันธุ์ฮัมมิงเบิร์ดที่เล็กที่สุดเท่าที่มีอยู่ มีขนาดเพียง 5 เซนติเมตร และน้ำหนักน้อยกว่า 2.0 กรัม เมื่อเปรียบเทียบขนาดสมองและขนาดตัวแล้ว สมองของนกฮัมมิงเบิร์ดนั้นมีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์เราถึง 2 เท่าเลยนะ
.
ที่มาของชื่อ ฮัมมิงเบิร์ด มาจากเสียงขณะที่ปีกของพวกเขากำลังกระพือด้วยอัตราเร็ว 12 ครั้งต่อวินาที เพื่อบิน ( อาจจะมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ด้วย ) และเสียงที่เกิดขึ้นนั้นมีความถี่สูงกว่าที่หูมนุษย์จะสามารถได้ยิน
.
ฮัมมิงเบิร์ดมีความสามารถในการบินขึ้นลงในแนวดิ่ง เดินหน้าถอยหลัง และบินนิ่งในอากาศได้จากการกระพือปีกด้วยอัตราเร็วที่มากๆ
.
ฮัมมิงเบิร์ดมีเมแทบอลิซึมสูงกว่าสัตว์เลือดอุ่นชนิดอื่น และเพื่ออนุรักษ์พลังงาน เมื่อขาดแคลนอาหาร พวกเขาสามารถเข้าสู่ภาวะคล้ายกับการจำศีล โดยชะลออัตราเมแทบอลิซึมเหลือ 1/15 ของอัตราปกติ
.
หากเพื่อนๆ ชาวด็อกคลิป มีประสบการณ์พบเจอเรื่องราวน่ารักๆ เกี่ยวกับน้องหมาที่ทำให้เราอมยิ้มตาม หรือซาบซึ้งใจ อย่าลืมแวะมาเล่าและแบ่งปันให้เพื่อนๆ ชาวด็อกคลิปให้ฟังกันบ้างนะครับ ผ่านคอมเมนต์ใต้โพสต์นี้หรือในกลุ่มด็อกคลิปวิลเลจ (Dog's Clip Village) ก็ได้นะครับ มาเป็นชาวด็อกคลิปวิลเลจ มาเป็นครอบครัวเดียวกันนะครับ
.
ขอบคุณข้อมูลจาก The Dodo, Wikipedia, Bianca Caroline Soares
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
