ยังพบการลักลอบล่าสัตว์ป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ กรมอุทยานฯ วอนหยุดวางกับดักสัตว์ป่า

...กำลังโหลดข้อมูล...

.

.

.

จากสถานการณ์การลักลอบล่าสัตว์ป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์โดยการตรวจสอบข้อมูลจากการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (SMART Patrol) โดยเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชพบว่า ยังคงมีการใช้เครื่องมือดักสัตว์ป่า เช่น บ่วง แร้ว ที่ทําด้วยเชือกและสลิง ปืนผูกและอุปกรณ์อื่น ๆ ทั้งในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ตลอดจนพื้นที่ข้างเคียงพื้นที่ป่าอนุรักษ์

ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

.

ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช 

.

ในระยะเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์หลังจากที่เพิ่งก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ในปี พ.ศ. 2565 บนหน้าแฟนเพจเฟซบุ๊กประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชก็ได้แจ้งข่าวร้ายชวนหดหู่ใจถึง 2 ครั้งว่า เจ้าหน้าที่ได้พบสัตว์ป่าต้องเสียชีวิตและถูกคุกคามจากกับดักสัตว์!

ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

.

ข่าวร้ายแรก... เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ.2565 ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่า (เขายายดา)​ ลาดตระเวนเชิงคุณภาพ เมื่อเดินทางถึงบ้านคลองหิน ม.1 ต.ห้วยทับมอญ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง เจ้าหน้าที่ก็ได้พบซากกระทิงหรือเมย (Bos gaurus) จำนวน 1 ซาก ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ลำดับที่ 4 ตามทะเบียนแสดงบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง

ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

.

ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

.

ภายหลังสัตวแพทย์ประจำ สบอ.2 ได้พิสูจน์พบเป็นซากกระทิง เพศเมีย อายุประมาณ 15-20 ปี ตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 15-20 วัน​ ผิวหนังแห้งติดกระดูก มีฝูงแมลงวันตอมและพบเชือกบ่วงไนลอนรัดบริเวณขาหน้าซ้าย ปลายเชือกอีกด้านผูกยึดติดกับต้นไม้ สันนิษฐานว่าเสียชีวิตพเราะขาดน้ำและอาหารติดต่อกันนานหลายวัน นอกจานั้นเจ้าหน้าที่ยังพบกับบ่วงแร้วเชือกไนลอน ขนาด 4 หุน ยาว 3 ม. จำนวน 32 เส้น และหมุดเหล็กยึดบ่วงแร้ว ขนาด 3 หุน ยาว 40 ซม. อีกจำนวน 66 อันในบริเวณใกล้ ๆ ด้วย เจ้าหน้าที่ได้ร่วมทำบันทึกนำเรื่องราวและอุปกรณ์ของกลางในการกระทำผิด กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เขาชะเมา อ.เขาชะเมา จ.ระยอง เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายในฐานความผิดต่อไปด้วย

ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

.

ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

.

ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

.

ข่าวร้ายที่สอง... ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2565 โดยนายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ได้เปิดเผยว่าวันที่ 9 มกราคม  พ.ศ.2565 อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยางได้รายงานผลการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (smart patrol) ของสายตรวจลาดตระเวนประจำอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยางว่า ได้รับแจ้งจากผู้ไม่ประสงค์ออกนามว่ามีชาวบ้านเข้ามาดักแร้วหมูป่า บริเวณป่าหินเทินหมู่ 5 ตำบลแสงอรุณ อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจฯ จึงได้เข้าไปลาดตระเวนปูพรมก่อนพบหมูป่าติดแร้วจำนวน 1 ตัว จึงได้ทำการช่วยชีวิตปลดแร้วที่ติดบริเวนขาหน้าออก โชคดีที่ขาของหมูป่าไม่ได้รับบาดเจ็บจึงได้ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ลาดตระเวนปูพรมเพื่อค้นหาบ่วงแร้วที่เหลือและพบบ่วงแร้วเชือกพร้อมใช้งานอีกจำนวน 50 อัน จึงได้ทำการเก็บกู้ออกจากพื้นที่ทั้งหมด

ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

.

ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

.

ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

.
ขณะที่บนหน้าแฟนเพจเฟซบุ๊กประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชก็ได้ออกมารณรงค์หยุดยั้งการใช้เครื่องดักสัตว์ป่า รวมถึงการล่า ซื้อขายและกินเนื้อสัตว์ป่าทุกชนิด พร้อมกับให้ข้อมูลว่าการวางกับดักสัตว์คือภัยคุกคามร้ายแรงอย่างยิ่งต่อสวัสดิภาพของสัตว์ป่าและเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย มีโทษหนักทั้งจำและปรับดังนี้

.
1. ฐาน “ล่อหรือนำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการทั้งปวง” ตาม ม.19 (3) ประกอบ ม.43 แห่ง พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

.
2. ฐาน “เข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ในเขตอุทยานแห่งชาติ” ตาม ม.19 (6) ประกอบ ม.44 แห่ง พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

.
3. ฐาน “นำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม ม.19 (7) ประกอบ ม.45 แห่ง พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท

.
4. ฐาน “เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตาม ม.20 ประกอบ ม.47 แห่ง พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

.
อย่างไรก็ตามเพื่อให้สัตว์ป่าสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัยในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ดำเนินการลาดตระเวนเพื่อป้องกันภัยคุกคามดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นมากเป็นพิเศษในช่วงรณรงค์ "หยุดกับดักสัตว์ป่ามหันตภัยทำร้ายชีวิต" ตั้งแต่วันที่ 1 - 31 มกราคม พ.ศ.2565 ซึ่งหากพ้นกำหนดระยะเวลาในการรณรงค์แล้ว กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชยังได้กำหนดให้ทุกหน่วยงานหมั่นตรวจตราลาดตระเวนในพื้นที่และปฏิบัติภารกิจดังกล่าวเป็นการต่อเนื่องดังเช่นที่ผ่านมาด้วย

.

ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

.
กับดักสัตว์ไม่เพียงแค่เป็นภัยคุกคามร้ายแรงอย่างยิ่งต่อสวัสดิภาพของสัตว์ป่า แต่ทว่ายังเป็นอุปสรรคทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนยากและอันตรายขึ้นมาก เพราะบ่อยครั้งกับดักสัตว์ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ

ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช 

.

ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช 

.

ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช 

.
หากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายป่าไม้และสัตว์ป่าแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง
.

.

.

 

.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip 

..................................................................
บทความโดย dogsclip.com

“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”

.

.