สัตว์เลี้ยงของคนทั่วไปก็คงจะเป็นน้องหมา น้องแมว กระต่ายหรือเต่า สัตว์ที่มีขนาดเล็กๆ สามารถดูแลและควบคุมได้ง่าย คงมีไม่กี่คนหรอกนะที่จะมีช้างตัวใหญ่ๆ เป็นสัตว์เลี้ยงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันภายในบ้าน สัตว์ที่มหัศจรรย์อย่างช้างพวกเขาเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตอยู่ในป่า แต่ทว่ายังมีช้างน้อยตัวหนึ่งเขาได้พบเส้นทางชีวิตของตัวเอง นั่นคือการได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ช้างน้อยที่ตัวใหญ่กว่าสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ นี้ได้พยายามปรับตัวให้เข้ากับบ้านหลังใหม่ได้เป็นอย่างดี จนในวันนี้เขาและผู้มีพระคุณได้กลายมาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกัน
.
“ร็อกซี่ แดงซค์เวิรธ์ส” (Roxy Danckwerts) ผู้ก่อตั้ง Wild Is Life องค์กรช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ถูกจัดตั้งขึ้นในประเทศซิมบับเว องค์กรของร็อกซี่ทำหน้าที่ช่วยเหลือและดูแลสัตว์ป่าจำนวนมากในซิมบับเว แทบทุกวันจะมีสัตว์ป่าที่ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวเข้ามารับการรักษาที่องค์กรของเธอและเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา เธอก็ได้รับแจ้งว่ามีลูกช้างตัวน้อยที่พลัดหลงจากโขลงกำลังเดินเร่ร่อนอยู่เพียงลำพังซึ่งนั้นเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก ดังนั้นร็อกซี่และทีมงานจึงรีบเดินทางลงพื้นที่มุ่งหน้าไปยังจุดที่ได้รับแจ้งในทันที เมื่อพวกเขาเดินทางไปถึงพวกเขาไม่พบ จึงสำรวจไปรอบๆ ในพื้นที่ดังกล่าว จนกระทั่งได้พบตัวลูกช้างตัวน้อยแต่ทว่าในช่วงเวลานั้นเอง เขากำลังอยู่ในอันตรายกลางแม่น้ำและกำลังแสดงท่าทางเป็นสัญญานที่ไม่ดีว่าเขากำลังจะจมน้ำ... ร็อกซี่สันนิษฐานว่าลูกช้างเพิ่งจะพลัดตกลงไปเองได้ไม่นาน...
ร็อกซี่และช้างในองค์กร Wild Is Life
.
โชคดีที่กระแสน้ำแรงพอที่จะช่วยดันตัวลูกช้างขึ้นไปเกยตื้นที่บริเวณชายหาดที่ทะเลสาบคาริบาที่อยู่ใกล้ๆ กันนั้น ลูกช้างตัวน้อยจึงรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด ถึงแม้ว่าลูกช้างจะได้พบกับความโชคดีเพราะกระแสน้ำที่ช่วยชีวิตให้เขารอดตาย แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ลูกช้างยิ่งอยู่ห่างจากโขลงมากกว่าเดิม ลูกช้างกำลังตกอยู่ในอาการหวาดกลัว เขาพยายามลุกขึ้นแล้วเดินตามหาโขลงที่เพิ่งพลัดพรากมาอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าความพยายามนั้นจะไร้ประโยชน์เมื่อลูกช้างตัวน้อยเดินหลงทางและดูเหมือนเขากำลังร้องไห้ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร... ลูกช้างอยู่ลำพังและไม่เจอช้างตัวอื่นๆ เลยในบริเวณที่เขาอยู่
.
ร็อกซี่และทีมกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ติดตามการเอาตัวรอดของลูกช้างผู้น่าสงสารอยู่ห่างๆ แต่ทว่าเวลายิ่งผ่านไปร็อกซี่และทีมยิ่งมั่นใจว่าโอกาสที่ช้างตัวน้อยจะสามารถต่อสู้เพื่อมีชีวิตรอดอยู่ได้นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย จากการประเมินด้วยสายตาลูกช้างมีอายุได้เพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น เขาแทบจะไม่รู้จักตัวเองด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นทำให้ยิ่งแน่ใจว่าผืนป่าที่กว้างใหญ่แห่งนี้ลูกช้างตัวน้อยก็คงจะไม่รู้จักและไร้ประสบการณ์ด้วยเช่นกัน ...จึงเป็นเรื่องยากมากที่ลูกช้างตัวน้อยจะเอาชีวิตรอดได้ ร็อกซี่และทีมจึงตัดสินใจยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือลูกช้างตัวน้อยเอาไว้
.
ลูกช้างตัวน้อยถูกพาตัวมาดูแลที่องค์กร Wild Is Life เขาได้รับการตรวจสุขภาพและดูแลเป็นอย่างดีจากสัตวแพทย์ขององค์กร ผลการตรวจสุขภาพพบว่าลูกช้างตัวน้อยมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาก เขาหนักเพียงแค่ 56 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งตามปกติแล้วลูกช้างแอฟริกาควรจะมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 90 - 100 กิโลกรัม และที่น่าเป็นหวงมากไปกว่านั้นลูกช้างตัวน้อยกำลังได้รับบาดเจ็บ ซึ่งก็น่าจะเกิดขึ้นขณะที่พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด ช่วง 2-3 สัปดาห์แรกบาดแผลที่เกิดขึ้นทำให้ลูกช้างตัวน้อยเจ็บปวดสภาพร่างกายของเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะแข็งแรงขึ้นได้เลย สัตวแพทย์ต่างลงความเห็นว่าเขาอาจจะไม่สามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้...แต่ทว่าลูกช้างกลับแสดงให้ร็อกซี่และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เห็นว่าเธอยังคงต้องการที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่อไป หลังจากสัปดาห์ที่ 3 อาการของเขาก็ดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์
.
.
ร็อกซี่ใช้เวลาส่วนใหญ่เพื่อดูแลลูกช้างอย่างใกล้ชิด เธอต้องให้นมสูตรพิเศษกับลูกช้าง 18 ลิตรทุกๆ วัน ทั้งคู่อยู่ด้วยกันแทบตลอดทั้งวันรวมถึงเวลานอนด้วย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจถ้าครั้งใดที่ได้เห็นเธอข้างกายก็จะพบลูกช้างตัวน้อยอยู่ใกล้ๆ ตามติดกันไปแบบนั้นทุกๆ ที่
.
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ลูกช้างตัวน้อยมีอายุ 5 ปีแล้ว และชื่อของเขาก็คือ “โมโย่” (Moyo) ซึ่งเป็นภาษาแอฟริกาที่มีความหมายว่า “ของหัวใจ” (Of The Heart) วันนี้โมโย่ยังคงใช้ชีวิตอยู่กับร็อกซี่แม่คนที่สองของเขาที่ Wild Is Life เขายังคงตามติดเธอไปทุกๆ ที่เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน และที่สำคัญทั้งคู่ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมด้วยกัน ถึงแม้ว่าตอนนี้ขนาดตัวของเขาจะโตขึ้นจนแทบจะเต็มพื้นที่บ้านแล้ว แต่โมโย่ก็ยังคงชอบที่จะอยู่ในบ้าน ถึงแม้ว่าจะมีพื้นที่กว้างมากมายให้เข้าได้วิ่งเล่นนอกบ้านในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าก็ตาม...นั่นก็เพราะว่าร็อกซี่แม่ของเขาอยู่ที่นั่นไงล่ะ!
ร็อกซี่และโมโย่เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา
.
จากเหตุการณ์เมื่อครั้งที่โมโย่เดินหลงจากโขลงแล้วเกิดพลัดตกในแม่น้ำจนเกือบต้องจมน้ำจบชีวิตไปในครั้งนั้น ความกลัวที่เกิดขึ้นได้สร้างบาดแผลฝังใจจนเขาไม่กล้าที่จะเดินลงน้ำอีกเลยเพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ ซ้ำอีกครั้ง แต่ร็อกซี่เธอได้พยายามปลอบและคอยสอนให้โมโย่เข้าใจว่า แม่น้ำไม่ได้อันตรายอย่างที่คิดด้วยความเป็นแม่ ร็อกซี่คงรู้ดีว่าชีวิตของมนุษย์ไม่ได้ยืนยาวและเธอไม่สามารถดูแลโมโย่ได้ตลอดไปในทุกวินาทีของชีวิต การสอนให้โมโย่เอาชนะความกลัว เรียนรู้กับธรรมชาติและผืนป่าแห่งนี้เป็นเสมือนโล่ที่แข็งเกร่งและภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงที่จะช่วยดูแลลูกชายตัวโตที่รักของเธออยู่รอดปลอดภัยและมีความสุขได้จริงๆ ร็อกซี่จึงหมั่นพาโมโย่ไปเล่นน้ำด้วยทุกๆ วัน จนเวลาผ่านไปนาน 15 เดือน โมโย่ก็สมารถเอาชนะความกลัวภายในจิตใจของเขาได้ วันนี้โมโย่ไม่กลัวแม่น้ำและชอบที่จะได้เล่นน้ำร่วมกับช้างตัวอื่นๆ แล้วล่ะ
เมื่อครั้งที่ร็อกซี่สอนให้โมโย่เลิกกลัวน้ำ
.
ด้วยความช่วยเหลือของร็อกซี่และองค์กรของเธอทำให้โมโย่และช้างกำพร้าอีกหลายตัว รวมถึงสัตว์ป่าอีกหลายชนิดที่ต้องการความช่วยเหลือได้รับการดูแล ความรักและการรักษาจนทำให้พวกเขาได้มีโอกาสอยู่รอดสามารถดำเนินชีวิตต่อไปบนโลกใบนี้ได้อีกครั้ง...ชีวิตพวกเขายืนยาวขึ้นหายจากความทุกข์ทางร่างกายด้วยยารักษาโรคและทางใจจากการดูแลเอาใจใส่ในฐานะ "เพื่อนร่วมโลก"
โมโย่พาน้องวิ่งเล่น
.
ความรักและความเอาใจของร็อกซี่ช่วยทำให้โมโย่เติบโตขึ้นมาเป็นช้างที่มีสุขภาพดีและมีความสุข...วิ่งเล่นสนุกได้อย่างอิสระเพื่อต่อลมหายใจให้กับผืนป่าได้มีชีวิตอยู่ต่อไป...
.
รับชมคลิปเมื่อตอนโมโย่ยังเด็ก
.
ขอบคุณข้อมูลจาก Brightside, BBC UK
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.