เมื่อช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ.2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จาก Florida Fish and Wildlife Conservation Commission หรือ FWC รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบหมีดำ เพศเมีย โชคร้ายตัวหนึ่งที่พลาดท่าทำหัวติดอยู่ในขวดพลาสติกที่มีขนาดพอดีกับหัวและดูเหมือนว่าเธอกำลังลำบากต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก แต่ทว่าการช่วยเหลืออันตรายเกินกว่าที่พลเมืองดีจะจัดการเองได้จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบเพื่อขอความช่วยเหลือแทน หลังทราบเรื่อง FWC จึงได้จัดทีมเร่งส่งเจ้าหน้าที่ภาคสนามลงพื้นที่เพื่อเข้าตรวจสอบ...
.
.
.
แต่ทว่าหลังจากที่เจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงตามพิกัดที่ได้รับแจ้ง พวกเขากลับไม่พบหมีดำผู้โชคร้าย ซึ่งเป็นไปได้มากว่าเธออาจจะเจอกับอะไรบางอย่างที่ทำให้รู้สึกกลัวจึงตัดสินใจวิ่งหนีเตลิดหายไป เจ้าหน้าที่ไม่นิ่งนอนใจกระจายกำลังออกลาดตระเวนตามหาแต่ทว่าสุดท้ายกลับไม่พบตัว
.
“เจ้าหน้าที่ของเราพยายามติดตามหมีดำผู้โชคร้ายอยู่ตลอดนะ เราวางทั้งกับดักและออกตระเวนในพื้นที่รอบ ๆ เพื่อค้นหาตัวเธอ แต่น่าเศร้าที่หลังจากวันนั้นก็ไม่มีใครได้พบเห็นเธออีกเลย”
เจ้าหน้าที่ FWC กล่าว
.
จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานกว่า 28 วัน หมีดำพร้อมขวดพลาสติกบนหัวก็ถูกพบอีกครั้งโดยกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งเอาไว้ที่บริเวณหลังบ้านของประชาชนในพื้นที่ ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงชัดว่าส่วนหัวของหมีดำยังคงติดอยู่ในขวดพลาสติก ซึ่งนั่นทำให้เจ้าหน้าที่รู้สึกประหลาดใจมาก ขวดพลาสติกเป็นอุปสรรคในการออกล่าเหยื่อของเธอแต่จากภาพเห็นได้ชัดว่าเธอยังมีชีวิตอยู่!
.
.
หลังจากได้เห็นภาพหมีดำผู้โชคร้ายปรากฎตัว เจ้าหน้าที่ก็เร่งจัดทีมรีบลงพื้นที่ในวันถัดมาทันที พวกเขาวางกับดักเอาไว้รอบ ๆ บริเวณที่หมีดำปรากฎครั้งล่าสุดและกระจายกำลังออกลาดตระเวนตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่พลาดโอกาสสำคัญนี้อีกครั้ง หลังจากที่เดินแกะรอยอยู่นานหลายชั่วโมงในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ติดตามไปพบตัวหมีดำผู้โชคร้าย!
.
เจ้าหน้าที่ซุ่มอยู่ในระยะไกลเกรงว่าหมีดำจะรู้ตัว ก่อนจะยกปืนขึ้นมาเล็งเป้าเหนี่ยวไกยิงลูกดอกยาสลบ ไม่กี่นาทีต่อมาหมีดำก็มีอาการสะลึมสะลือหมดสติล้มลงไปนอนกองบนพื้น เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเมื่อแน่ใจว่าหมีดำไม่ได้สติแล้วก็เร่งลงมือช่วยเอาขวดพลาสติกออกจากหัวของเธอด้วยความระมัดระวัง ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจร่างกายให้กับเธอเบื้องต้นและพบเรื่องน่าประหลาดใจว่า หมีดำผู้โชคร้ายสภาพร่างกายไม่ได้ซูบผอมลงเลย เธอยังอ้วนและสุขภาพดีจนหมดห่วง
.
“เราคิดว่าที่หมีดำรอดมาได้นานกว่า 28 วัน อาจจะเป็นเพราะที่ก้นขวดมีรูอยู่ หมีดำฉลาดพอที่จะใช้รูนั้นเพื่อดื่มน้ำและกินอาหาร เห็นได้ชัดว่าการมีขวดพลาสติกติดอยู่บนหัวนานกว่า 28 วันไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับหมีดำสักเท่าไหร่นัก นั่นเพราะรูปร่างของเธอยังคงดูอ้วนท้วนสมบูรณ์ดีอยู่”
เจ้าหน้าที่ FWC กล่าว
.
.
หลังจากที่ใช้ความพยายามอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่ก็สามารถดึงขวดพลาสติกออกจากหัวหมีดำผู้โชคร้ายได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กลับพบว่าบริเวณรอบ ๆ ลำคอของเธอมีบาดแผลลึก ซึ่งคาดว่าเกิดจากคมของพลาสติกที่แตกออกก่อนจะเสียดสีจนเป็นแผลและลึกลงไปในส่วนเนื้อเยื่อเมื่อเธอพยายามจะออกแรงดึงขวดออกจากคอ บาดแผลลึกและน่าเป็นห่วงเกินกว่าจะปล่อยให้หายเองเจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องพาหมีดำกลับไปรักษาตัวที่ศูนย์ฯ
.
.
หลังที่หมีดำผู้โชคร้ายถูกพาตัวไปที่ศูนย์ฯ เธอก็ได้รับการรักษาจากทีมสัตวแพทย์ด้วยยาปฏิชีวนะ ซึ่งในระหว่างนั้นเธอก็ต้องถูกกักบริเวณเพื่อเฝ้าสังเกตอาการเป็นเวลานาน 36 ชั่วโมง กระทั่งสัตวแพทย์แน่ใจว่าแผลเริ่มดีขึ้นและไม่มีอาการข้างเคียงอื่นใดที่ต้องเป็นห่วงอีก หมีดำผู้โชคร้ายจึงได้กลับสู่ป่าบ้านหลังใหญ่ที่จากมาอีกครั้ง!
.
.
.
เจ้าหน้าที่ FWC ได้ออกมาขอบคุณสำหรับความร่วมมืออย่างดีจากทุกภาคส่วนที่ทำให้ภารกิจช่วยเหลือครั้งนี้สำเร็จลุล้วงไปได้ด้วยดี หมีดำผู้โชคร้ายปลอดภัยและได้รับอิสระกลับไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในป่าได้อีกครั้ง
.
.
ตามปกติแล้ว... หมีดำจะพบได้ทั่วไปในรัฐฟลอริด้า พวกเขาชอบออกจากป่ามาเพื่อหาอาหารในเขตชุมชนอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงงดให้อาหารหมีดำเหล่านั้น เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย อันตรายและเป็นการเข้าไปแทรกแซงวิถีชีวิตของสัตว์ป่ามากเกินไปด้วย
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
