บรรดาเจ้านายของเหล่าน้องหมาคงจะรู้กันดีอยู่แล้วล่ะว่า ลูกๆ สี่ขาสามารถเข้าใจในสิ่งที่เราพูดและสามารถตอบโต้สื่อสารบอกความรู้สึกให้บรรดาเจ้านายรับรู้ได้ ซึ่งน่าประทับใจเมื่อหลายต่อหลายครั้งบรรดาเจ้านายก็สามารถเข้าใจในสิ่งที่น้องหมาพยายามสื่อสารบอกซะด้วยซิ แน่นอน! บรรดาเจ้านายส่วนใหญ่แล้วสามารถคุยกับสัตว์ได้ 555 เป็นตุเป็นตะเลยด้วย 555 แต่ทว่าการสื่อสารดั่งกล่าวก็ใช่จะสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ทุกครั้งไปเพราะอุปสรรคคือภาษาที่แตกต่างกัน หลายคนต้องการเข้าใจในสิ่งที่น้องหมาสื่อสารเพื่อมอบและตอบสนองในสิ่งที่พวกเขาต้องการให้ตรงประเด็น ครั้นจะให้เราเห่าแบบน้องหมา หรือให้น้องหมาหันมาพูดภาษามนุษย์อย่างเราก็คงจะเป็นเรื่องยาก แค่นึกภาพก็วุ่นวายน่าดูแล้วล่ะ
.
“คริสติน่า ฮังเกอร์” (Christina Hunger) สาวผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดผู้ที่มีปัญหาในการสื่อสาร วัย 26 ปี จากเมื่อซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้คิดค้นหาวิธีการใดๆ ก็ตามเพื่อแก้ปัญหาทำลายอุปสรรคในการสื่อสารระหว่างมนุษย์และน้องหมาลง กระทั่งในที่สุดเธอก็ได้พบกับวิธีที่จะสามารถแก้ปัญหานั้นได้จริงๆ คริสติน่าสร้างอุปกรณ์ตัวกลางบางอย่างขึ้นมาเพื่อให้น้องหมาใช้สำหรับสื่อสารบอกความต้องการให้กับเจ้านายของพวกเขารับรู้ อุปกรณ์ตัวกลางที่ว่านั้นคือ "ซาวด์บอร์ด" (Sound Board) หรือเรียกว่า "กระดานเสียง" ขนาดใหญ่
.
คริสติน่าได้ทดลองใช้อุปกรณ์ดังกล่าวกับ “สเตลล่า” (Stella) น้องหมาสายพันธุ์คาทาฮูลา ลีโอพาร์ด ผสมออสเตรเลียนแคทเทิลด็อก วัย 18 เดือนที่เลี้ยงเอาไว้ด้วย คริสติน่าได้พบว่าสเตลล่าไม่ได้ใช้อุปกรณ์กระดานเสียงสำหรับตอบโต้ขณะที่เธอต้องการพูดคุยกับเธอเท่านั้น แต่สเตลล่ายังใช้เพื่อเริ่มต้นบทสนทนาสื่อสารบอกคริสติน่าว่าเธอกำลังคิดและรู้สึกอะไรอยู่ในตอนนั้นด้วย...
.
.
ซึ่งอุปกรณ์กระดานเสียงที่คริสติน่าสร้างขึ้นมาก็ใช่ว่าน้องหมาทุกตัวจะสามารถใช้ได้เลยนะ หากต้องผ่านกระบวนการฝึกอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เช่นเดียวกับสเตลล่าเธอได้รับการฝึกให้เรียนรู้กับคำศัพท์และความหมายง่ายๆ ด้วยเสียงพูดจากปากของคริสติน่าก่อนเช่นคำว่า ลูกบอล อาหาร เป็นต้น หลังจากนั้นคริสติน่าจะบันทึกเสียงคำศัพท์เหล่านั้นลงบน "ซาวด์ การ์ด" (Sound Card) ที่บรรจุอยู่ด้านใน "ซาวด์ บัททอนส์" (Sound Buttons) หรือเรียกอีกอย่างว่า "ปุ่มเสียง" เธอจะนำปุ่มเสียงเหล่านั้นมาวางเรียงกันบนกระดานคำศัพท์และคริสติน่าเรียกมันว่า "กระดานเสียง" และทุกครั้งที่ต้องการพูดคำศัพท์เหล่านั้นก็แค่ใช้วิธีกดที่ปุ่มเสียงบนกระดานเพื่อสื่อสารกับสเตลล่า
.
หลังจากที่สเตลล่าเริ่มเข้าใจคำศัพท์ง่ายๆ มากขึ้นแล้ว คริสติน่าก็จะค่อยๆ สอนคำศัพท์ใหม่ๆ ที่ยากขึ้นให้กับสเตลล่าเพิ่มเติมอีกเรื่อยๆ ในขณะที่เธอจะเพิ่มปุ่มเสียงลงบนกระดานไปเรื่อยๆ เช่นกัน
.
หลังจากที่สเตล่าได้เรียนรู้คำศัพท์ต่างๆ และวิธีใช้งานแล้ว สเตลล่าได้ใช้กระดานเสียงเพื่อสื่อสารกับเจ้านายของเธอด้วย เมื่อสเตลล่าต้องการ หรือรู้สึกอย่างไรในเวลาที่ไม่มีใครสนใจเธอก็แค่เดินไปที่กระดานเสียงแล้วใช้อุ้งเท้าน้อยๆ กดบนปุ่มเสียงที่ตรงกับความต้องการและความรู้สึกของเธอตามที่เคยได้เรียนรู้มาเท่านั้น... เสียงจากปุ่มเสียงก็จะดังขึ้นเพื่อสื่อสารให้เจ้านายของเธอรับรู้... กระดานเสียงกำลังทำหน้าที่เป็นเสมือนปากหรือลำโพงที่ส่งเสียงดังตรงออกมาจากหัวใจของสเตลล่า
.
.
.
กระดานเสียงของคริสติน่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สเตลล่าสามารถบอกสิ่งที่เธอต้องการให้คริสติน่าเข้าใจได้โดยง่ายไม่ว่าจะเป็นตอนที่สเตลล่าเหนื่อย ง่วง อยากจะนอนงีบ หรือตอนที่เธอหิวอยากได้อาหาร แม้กระทั่งตอนที่เธอต้องการออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน สเตลล่าก็สามารถสื่อสารให้คริสติน่าเข้าใจได้เพียงแค่เดินไปกดปุ่มเดียวเท่านัั้น ถ้าธอรู้สึกและต้องการสิ่งนั้นมากๆ เธอก็จะกดปุ่มย้ำๆ เช่นเวลาสเตลล่าต้องการได้รับความสนใจ เธอก็จะเดินไปกดปุ่มเสียง "มองนี่" ซ้ำๆ
.
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ทำให้คริสติน่าเชื่อว่ากระดานเสียงของเธอได้ผลจริงๆ ขณะที่สเตลล่ากำลังยืนร้องครวญครางอยู่ที่บริเวณหน้าประตูทางเข้าออกบ้าน คล้ายกับกำลังต้องการอะไรบางอย่าง คริสติน่าคิดว่าสเตลล่าต้องการออกไปข้างนอกบ้าน แต่ดูเหมือนว่าสเตลล่าจะรับรู้ว่าเจ้านายสาวของเธอกำลังเข้าใจผิด เธอจึงเดินไปที่กระดานเสียงจากนั้นก็กดปุ่มคำว่า “ต้องการ” , “เจค” , “มา”
.
คริสติน่าค่อนข้างงงเล็กน้อยกับคำที่สเตลล่ากด แต่นั่นก็ทำให้เธอรู้ว่าสเตลล่าไม่ได้ต้องการจะออกไปเดินเล่นข้างนอก สเตลล่ายืนรอที่บริเวณด้านหน้าประตูอยู่อย่างนั้น จนกระทั่ง “เจค”(Jake) คู่หมั้นของคริสติน่าเปิดประตูเดินเข้ามาในบ้าน สเตลล่าแสดงอาการดีใจสุดๆ เธอกระโดดโลดเต้นไปมากเหมือนที่เคยทำ ก่อนจะเดินไปที่กระดานเสียงแล้วกดคำว่า “มีความสุข” แล้ววิ่งกลับมาหาเจคและนอนลงกับพื้นให้เขาเกาพุงให้... มันวิเศษมากเลยใช่ไหมล่ะครับ
.
เห็นได้ชัดว่าคำ 3 คำที่สเตลล่ากดในตอนแรกนั้น เธอต้องการจะบอกคริสติน่าว่าเธอต้องการเจอเจค และเมื่อเขากลับมาถึงบ้านมันก็ทำให้เธอมีความสุข เธอจึงเดินไปกดปุ่มมีความสุข
.
คริสติน่าสอนให้สเตลล่าใช้กระดานเสียงตั้งแต่เธออายุได้เพียงแค่ 8 สัปดาห์เท่านั้น จนตอนนี้สเตลล่ารู้จักคำมากถึง 29 คำแล้ว และเธอสามารถกดคำได้ติดต่อกันมากที่สุดถึง 5 คำ เพื่อสร้างเป็นวลีหรือประโยคสั้นๆ ให้คริสติน่าเข้าใจ
.
คริสติน่าให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ People ว่า
“ฉันรู้สึกตะลึงและตกใจอยู่...ทุกๆ วัน สเตลล่าจะพูดอะไรที่เจ๋งกว่าเมื่อวันก่อนหน้าเสมอ วิธีที่ที่เธอใช้พูดสื่อสารและคำศัพท์ที่เธอใช้นั้นคล้ายคลึงกับเด็กอายุ 2 ขวบจริงๆ ”
.
แล้วคำไหนล่ะคือคำโปรดของสเตลล่าที่ชอบใช้อยู่บ่อยๆ ? แน่นอนก็ต้องคำว่า “เดิน” เธอใช้คำนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งแต่เธอเริ่มรู้จักความหมาย “ชายหาด” ก็เป็นอีกคำที่สเตลล่าชื่นชอบไม่แพ้กัน คริสติน่าบอกว่าสเตลล่ามีความสุขมากเมื่อเธอได้รู้จักความหมายของคำคำนี้ ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ชอบใช้คำนี้อยู่บ่อยๆ
.
คริสติน่าวางแผนจะสอนคำศัพท์ใหม่ๆ ให้กับสเตลล่าต่อไปเรื่อยๆ นอกจากนี้เธอยังต้องการสอนให้น้องหมาตัวอื่นสามารถเข้าใจคำศัพท์และสื่อสารกับเจ้านายของพวกเขาได้อย่างที่สเตลล่าทำด้วย เธอเชื่อว่าเมื่อเจ้านายและน้องหมาสามารถเข้าใจความต้องการของกันและกันได้ นั่นแหละคือความสุขที่สุด มันคงวิเศษมากหากได้ยินน้องหมาบอกรักเจ้านายทุกวัน...จริงไหมครับ
.
รับชมคลิป
.
หากเพื่อนๆ ชาวด็อกคลิป มีประสบการณ์พบเจอเรื่องราวน่ารักๆ เกี่ยวกับน้องหมาที่ทำให้เราอมยิ้มตาม หรือซาบซึ้งใจ อย่าลืมแวะมาเล่าและแบ่งปันให้เพื่อนๆ ชาวด็อกคลิปให้ฟังกันบ้างนะครับ ผ่านคอมเมนต์ใต้โพสต์นี้หรือในกลุ่มด็อกคลิปวิลเลจ (Dog's Clip Village) ก็ได้นะครับ มาเป็นชาวด็อกคลิปวิลเลจ มาเป็นครอบครัวเดียวกันนะครับ
.
ขอบคุณข้อมูลจาก Unilad, People, Hunger4words
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.