“บัฟฟี่” (Buffy) เป็นน้องแมวเหมียวที่ชื่นชอบการได้รับความสนใจและจะพยายามทำทุกวิธีเพื่อได้ให้รับความสนใจจากนายรัก ซึ่งก็คงจะเหมือนกับน้องแมวตัวอื่น ๆ แต่ก็ไม่เหมือนทั้งหมดเสียทีเดียวเพราะบัพฟี่จะทำแบบนี้เฉพาะตอนที่ต้องการเท่านั้น ใช่! เธอค่อนข้างเอาแต่ใจและการตัดสินใจหลายอย่างของเธอก็ยังขึ้นอยู่กับอารมณ์ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย! คาดเดายากเวอร์!
.

.
“ถ้าคุณลองเอื้อมมือไปลูบไล้บนตัวบัพฟี่นะ เธอจะรีบเดินหนีไปอยู่มุมห้องทันที เพราะเธอไม่ต้องการให้คุณเข้าไปอ้อนก่อน เธอจะเลือกเองว่าต้องการความสนใจจากคุณตอนไหน พอถึงตอนนั้นเธอจะพยายามส่งเสียงร้องดังให้คุณได้ยินและก็จะร้องอยู่แบบนั้นจนกว่าคุณจะหันไปสนใจ แต่บัฟฟี่เป็นแมวเหมียวที่น่ารักที่สุดเท่าที่ฉันเคยมีมาเลยล่ะ”
เคท (Kate) ผู้ปกครองหรือคุณแม่ของบัฟฟี่เม้ามอยถึงนิสัยเอาแต่ใจของลูกสาว
.
ถ้าบัฟฟี่ต้องการความสนใจจากเคทเมื่อไหร่ เธอก็ต้องได้รับในตอนนั้นทันที ถึงแม้ว่าสองมือของเคทกำลังง่วนอยู่กับงานตรงหน้ามากแค่ไหนก็ตาม
.
เมื่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีทีท่าส่อเค้าว่าสถานการณ์กำลังจะย่ำแย่หนักลงกว่าเดิม ทางบริษัทที่เคททำงานให้อยู่ก็ได้อนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน (work from home) เพื่อสนับสนุนมาตรการของรัฐและเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของพนักงาน ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากสำหรับบัฟฟี่เมื่อเธอจะได้มีเวลาอยู่ใกล้ชิดคุณแม่มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเคทก็ต้องใช้เวลาเกือบตลอดทั้งวันอยู่กับงานบนโต๊ะอยู่ดี ซึ่งบัฟฟี่เห็นและกำลังพยายามหาวิธีช่วยแบ่งเบาภาระของคุณแม่หลังจากที่นั่งเฝ้ามองอยู่เฉย ๆ มานานหลายสัปดาห์ ...ไม่นานเธอก็พบวิธีช่วยซึ่งมันทำให้เธอสนุกและค่อนข้างรู้สึกตื่นเต้นมากเลยทีเดียว
.
“บัฟฟี่มักจะมานั่งอยู่บนโต๊ะทำงานของฉันประมาณ 10 นาทีต่อวัน ก่อนที่เธอจะรู้สึกเบื่อแล้วเดินจากไป แต่ทว่าในบางครั้งเธอก็มักจะกระโดดขึ้นไปบนแลปท็อปของฉันก่อนจะเริ่มเดินย่ำไปย่ำมาบนแป้นพิมพ์ ปกติแล้วฉันใช้ Microsoft Teams ในการทำงาน ดังนั้นการที่บัพฟี่ย่ำอุ้งเท้าน้อย ๆ ลงบนคีย์บอร์ดก็มักจะเป็นการสร้างข้อความแปลก ๆ ซึ่งไม่ได้มีความหมายอะไร ก่อนที่เธอจะแสดงความแสนรู้หาวิธีกดส่งข้อความเหล่านั้นไปให้เพื่อนร่วมงานของฉันอยู่บ่อยครั้งซะด้วย”
เคทกล่าว
.

.
ถึงแม้ว่ากิจกรรมซุกซนของบัฟฟี่ที่ดูเหมือนจะสร้างความสงสัยให้กับเพื่อนร่วมงานของเคท แต่นั่นกลับทำให้บัฟฟี่รู้สึกภาคภูมิใจมาก ๆ เธอเข้าใจว่าความทุ่มเทของเธอได้ช่วยแบ่งเบาภาระงานของคุณแม่ได้บ้างแล้วล่ะ ไงล่ะแสนดีไปอี๊กลูก!!! แบบนี้คุณแม่เคทต้องแบ่งเงินเดือนให้ในฐานะผู้ช่วยแล้วล่ะ!
.
ภายหลังวีรกรรมของบัฟฟี่ถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ก่อนที่จะได้รับความสนใจจากผู้ใช้งานจำนวนมาก หลายคนรู้สึกขำ แต่บางส่วนรู้สึกกังวลใจว่าการกระทำของบัฟฟี่อาจจะทำให้เพื่อนร่วมงานของเคทรู้สึกโกรธเพราะเป็นการรบกวนเวลางานของพวกเขารึเปล่า? ในเวลาต่อมาเคทได้เข้ามาอธิบายให้หลายคนที่กำลังกังวลใจว่า ไม่ต้องกังวลไปเพราะเพื่อนร่วมงานของเธอไม่ได้คิดมากหรือรำคาญใจสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ทว่าในทางกลับกันสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขาอารมณ์ดีกลายเป็นเรื่องตลกและมุขขำขันในที่ทำงาน
.

.
“เพื่อนร่วมงานของฉันบอกว่ามันตลกมากเลยนะที่ได้รับข้อความแปลก ๆ จากน้องแมว บางครั้งพวกเขาก็ตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะ หรือไม่ก็ส่งข้อความกลับมาหาฉันเป็นภาษาแมวเพื่อทักทายบัฟฟี่ด้วย”
เคทกล่าว
.
เคทสามารถหาทางป้องกันเพื่อไม่ให้บัฟฟี่ส่งข้อความไปหาเพื่อนร่วมงานของเธอได้ แต่เพื่อนร่วมงานของเธอกลับขอให้เธอไม่ต้องทำอะไรแบบนั้น พวกเขาชอบที่จะได้รับข้อความแปลก ๆ จากบัฟฟี่ ซึ่งมันเป็นกำลังใจเล็ก ๆ ที่ช่วยทำให้การทำงานไม่ตึงเครียดเกินไปและยังช่วยสร้างสีสันทำให้บรรยากาศในการทำงานผ่อนคลายลงได้มากด้วย
.

.
“เป็นเรื่องตลกเหมือนกันนะที่ข้อความของบัฟฟี่ช่วยทำให้เพื่อนร่วมงานของฉันมีรอยยิ้มได้ ตราบใดที่บัฟฟี่ยังไม่ทำงานของฉันเสียหาย ความสนุกก็คงจะดำเนินต่อไป เพื่อนร่วมงานของฉันมีความสุขจากข้อความของบัฟฟี่ ถ้าเป็นฉันบ้างที่ได้รับข้อความจากน้องแมวแปลกหน้าฉันเองก็คงจะอดยิ้มไม่ได้เหมือนกันนะ”
เคทกล่าว
.

.
เห็นได้ชัดว่าบัฟฟี่สมควรได้รับการบรรจุเป็น “เด็กฝึกงาน” ประจำออฟฟิศนะ! ส่วนค่าตอบแทนของเธอก็คงจะเป็นปลาย่างตัวใหญ่
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.