“ลูลู่” (Lulu) น้องแมวจรจัดที่ต้องอาศัยและใช้ชีวิตอยู่ข้างถนนด้วยความยากลำบาก จนกระทั่งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาพลเมืองดีได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือพาเธอเข้าไปอยู่ในความดูแลของศูนย์พักพิงน้องแมวที่อยู่ใกล้เคียง ลูลู่ได้รับการดูแลที่ดีอย่างที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อนที่นั่น เธอเป็นน้องแมวที่น่ารัก ชอบอยู่ใกล้ๆ กับมนุษย์ นั่นจึงทำให้เจ้าหน้าที่ในศูนย์พิกพิงตกหลุมรักเธอได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
ภาพเปรียบเทียบชีวิตเร่รอนและชีวิตใหม่ในศูนย์พังพิงน้องแมว
.
ด้วยโชคชะตานำพาให้ลูลู่ได้พบกับบ้านหลังใหม่ เมื่อลูลู่มีโอกาสได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับครอบครัวที่ต้องการเธออีกครั้ง เธอก็ไม่ลืมที่จะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ เป็นเด็กดีตอบแทนน้ำใจของคุณพ่อคุณแม่คนใหม่ที่ต้อนรับเธอสู่หนึ่งในสมาชิกขนฟูของบ้าน แต่ทว่าวิธีตอบแทนน้ำใจของลูลู่นั้นแตกต่างจากสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ซึ่งก็ดูน่ารักไปอีกแบบเหมือนกันนะ
.
ไม่กี่เดือนหลังจากที่ลูลู่ได้รับอุปการะจนเริ่มคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมในบ้านหลังใหม่และครอบครัวใหม่แล้ว เธอก็เริ่มทำหน้าที่ที่น่ารักของเธอ ลูลู่รับรู้ว่าในทุกๆ เช้าว่าคุณแม่ของเธอจะหยิบรองเท้าคู่โปรดมาใส่ก่อนจะก้าวเท้าออกไปเดินเล่นนอกบ้านเสมอ ลูลู่เลือกที่จะเป็นผู้ช่วยคอยหยิบรองเท้ามาให้คุณแม่ของเธอเอง...
.
คู่นี้ใช่มั๊ยคะคุณแม่
.
ทุกเช้าเมื่อลูลู่เห็นคุณแม่กำลังจะเดินออกไปนั่งที่ม้านั่งนกบ้าน ลูลู่ก็จะรีบวิ่งไปคาบรองเท้ามาวางไว้ให้เธอทันที ลู่ตัวเล็กจึงทำให้เธอคาบรองเท้ามาให้คุณแม่ได้เพียงแค่ครั้งละหนึ่งข้างเท่านั้น นั่นจึงทำให้ลูลู่ต้องเดินไปมาถึงสองรอบสำหรับการหยิบรองเท้าคู่หนึ่งให้กับคุณแม่ของเธอ
.
“แม่ของฉันประหลาดใจมากในครั้งแรกที่ลูลู่คาบรองเท้ามาให้เธอสวม เมื่อเห็นท่าทางที่ดูตั้งใจของลูลู่คุณแม่ของฉันจึงไม่ปฏิเสธ”
เคย์ล่า (Kayla) ลูกสาวของผู้ปกครองของลูลู่กล่าว
.
เคย์ล่าอธิบายต่อว่า ครั้งแรกที่คุณแม่เล่าถึงเรื่องความน่ารักของลูลู่ที่พยายามคาบรองเท้ามาให้ในทุกๆ เช้าฟัง เคย์ล่าก็ยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไหร่หรอกนะ เพราะคิดว่าคุณแม่ของเธอคงแค่พูดเล่นๆ แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน คุณแม่ก็ส่งคลิปวิดีโอมาให้เคย์ล่าดูเพื่อยืนยันว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ ตอนนั้นแหละเคย์ล่าถึงได้เชื่อโดยไม่มีข้อสงสัยอื่นใดอีก เคย์ล่าค่อนข้างรู้สึกทึ่งกับความเฉลียวฉลาดและแสนรู้ของน้องแมวประจำบ้านอย่างลูลู่มาก...
.
“ตอนแรกที่คุณแม่เล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับเรื่องของลูลู่ ฉันไม่เชื่อเลย ทั้งยังคิดว่าคุณแม่ก็คงจะแค่ล้อเล่นหาเรื่องคุยสนุกๆ เท่านั้น แต่เมื่อเธอส่งคลิปวิดีโอเหตุการณ์ทั้งหมดมาให้ดู ฉันก็ประหลาดใจมาก เธอคาบรองเท้ามาให้คุณแม่ของฉันจริงๆ ”
เคย์ล่ากล่าว
.
ภายหลังเคย์ล่าได้นำคลิปวิดีโอความน่ารักของลูลู่เผยแพร่ลงบนอินสตาแกรมส่วนตัวของลูลู่ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา พร้อมกับข้อความสั้นๆ อธิบายถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นว่า
.
“คุณแม่ของฉันรับอุปการะแมวที่คาบรองเท้ามาให้เธอใส่ทุกๆ เช้า”
.
.
หลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยได้เพียงแค่ไม่นานนักก็ได้กลายเป็นกระแสบนโลกออกไลน์ มีผู้คนบนโลกออนไลน์จำนวนมากเข้ามาร่วมรับชม และแสดงความคิดเห็นด้วย หลายข้อความกล่าวชื่นชมในความน่ารักของลูลู่ด้วยว่า
.
“ฉันรักเธอ! น้องแมวของฉันที่ชื่อว่า ‘แองเจิ้ล’ ก็ทำแบบนี้เช่นกัน เธอจะคาบสิ่งของไปรอบๆ พร้อมกับร้องเหมียวๆ ไปด้วย ยินดีด้วยนะคุณมีแมวที่พิเศษมากตัวหนึ่งเลยล่ะ ”
.
“สิ่งนี้ไม่เพียงแค่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นหัวใจเท่านั้น แต่ยังทำให้ผมหัวเราะดังๆ ออกมาด้วย มันตลกดีนะที่จู่ๆ ก็มีแมวคาบรองเท้าคู่ใหญ่มาให้ทุกๆ เช้า ขอให้พระเจ้าอวยให้แมวน้อยตัวนี้อยู่ในหัวใจของคุณตลอดไป”
.
“น่ารักมากๆ ช่างเป็นแมวที่ฉลาดแสนรู้อะไรขนาดนี้นะ”
.
ดูเหมือนว่าตอนนี้ผู้คนบนโลกออนไลน์ได้รับรู้ถึงความน่ารักของลูลู่แล้ว และพวกเขาก็ต่างตกหลุมรักอดีตน้องแมวจรจัดอย่างลูลู่ด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าความจริงแล้ว ลูลู่คาบรองเท้ามาให้คุณแม่ของเคย์ล่าเพื่ออะไร แต่เคย์ล่าและคุณแม่ของเธอรับรู้ด้วยหัวใจว่าสิ่งที่ลูลู่ทำนั้นก็เพื่อตอบแทนความรักที่ครอบครัวมีให้เธอ
.
“ดูเหมือนว่าเธอแค่อยากจะดูแลคุณแม่ของฉัน เพราะคุณแม่ดูแลเธอดีมากๆ ราวกับเป็นลูกสาวคนเล็กอีกคนของบ้านเลยล่ะ”
เคย์ล่ากล่าว
.
รับชมคลิป
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
