นี่คือ “ไซม่อน” (Simon) น้องแมวเหมียวขนสีดำเงางาม เพศผู้ ที่มีนิสัยน่ารักและเป็นมิตรมากกกกจนบางทีนายรักก็คิดว่าเขาดีเกินไป! เพราะแม้แต่สัตว์ตัวน้อยที่มักจะทำลายข้าวของภายในบ้านและเป็นพาหะนำโรคที่ควรเป็นศัตรูคู่อาฆาตรอย่าง "หนู" ไซม่อนก็ยังทำใจดีหยิบยื่นมิตรภาพให้ เอ..หรือบางทีนี่อาจจะแผนร้าย ๆ เปลี่ยนมิตรเป็นศัตรูแล้วตะครุบทั้งฝูงนะ ?
.

.
เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา “เบนจามิน ซาเกรโด” (Benjamín Sagredo) ผู้ปกครองหรือนายรักของไซม่อน เริ่มได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังมาจากห้องครัวที่บ้านซึ่งอยู่ในเมืองปันตาแอเรีเนส ประเทศชิลี เสียงนั้นดังแผ่วเบาและเกิดขึ้นเพียงครั้งคราวเท่านั้น จึงทำให้เบนจามินได้แค่เกิดความสงสัยแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจหาคำตอบ...
.
“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือเสียงอะไรกันแน่ ผมเคยเห็นไซม่อนเล่นสนุกกับอะไรบางอย่างอยู่บริเวณใต้เก้าอี้นวม แต่ในตอนนั้นผมก็ไม่ได้สงสัยอะไรนะ ด้วยคิดว่าเขาคงกำลังสนุกอยู่กับของเล่นตามประสาอย่างที่เคยเป็น”
เบนจามินกล่าว
.

.
ขณะที่เบนจามินได้ยินเสียงปริศนาจากห้องครัวและไม่ใส่ใจ แต่ทว่าน้องแมวเหมียวไซม่อนไม่ได้ละเลยออกค้นหาคำตอบกระทั่งพบเจ้าของเสียงปริศนาพร้อมกับได้ลงมือจัดการกับผู้บุกรุกด้วยวิธีสันติ ไซม่อนสวมวิญญาณนักทูตเข้าไปพูดคุยและผูกมิตรกับเสียงปริศนา! ก่อนจะได้ทำข้อตกลงกันว่าเจ้าของเสียงจะต้องไม่ทำเสียงดังรบกวนเบนจามินเพื่อแลกกับสถานที่อบอุ่นพร้อมอาหารในบ้าน ซึ่งได้ผลเพราะนั่นทำให้ไม่มีเสียงปริศนาให้รำคาญใจเบนจามินอีกเลย เจ้าของเสียงปริศนาจึงยังคงเป็นความลับ
.

.
กระทั่งเช้าวันหนึ่งขณะที่เบนจามินกำลังก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้องครัว เขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อได้เห็นภาพที่ไม่คาดฝัน น้องแมวเหมียวไซม่อนกำลังก้มลงไปดื่มน้ำในถ้วย ขณะที่เพื่อนสัตว์ตัวน้อยที่ควรเป็นศัตรูของเหล่าแมวเหมียวอย่างหนูบ้านก็ปรากฎตัวและก่อนจะยืนก้มหน้าร่วมกินน้ำในถ้วยของไซม่อน!
.
แม่แก้วพ่อแก้ว! เบนจามินตาเหลือกตาค้างทั้งงงทั้งมึนพยายามเรียกสติตัวเอง... ช่วงแว๊บแรกที่เห็นเบนจามินไม่เชื่อสายตาตัวเองจึงเกิดความไม่แน่ใจว่าเจ้าสัตว์ตัวน้อยเป็นหนูบ้านจริง ๆ แต่ทว่าพอใช้เวลาเพ่งมองอยู่ครู่ใหญ่ก็มั่นใจว่าไม่ผิดแน่ ๆ ก่อนจะกลับมางงและตรองย้ำกับตัวเองอีกรอบว่า "น้องแมวเป็นสัตว์นักล่าและพวกหนูก็ไม่ชอบน้องแมว พวกเขาต้องไล่กวดกันสิ" แต่ทว่าภาพตรงหน้ากลับขัดกับสิ่งที่เบนจามินเคยเข้าใจ น้องแมวของเขากำลังมีเพื่อนสนิทเป็นหนูบ้าน! ระหว่างนั้นเบนจามินก็พยายามกระซิบเบา ๆ ให้ไซม่อนถอยให้ห่างเจ้าหนูบ้านซะ
.

.
“พวกเขาดูเป็นเพื่อนสนิทกันนะ ผมไม่รู้ว่าพวกเขารู้จักกันมานานแค่ไหนแล้ว แต่ไซม่อนดูจะเอ็นดูเจ้าหนูบ้านตัวนั้นมากเป็นพิเศษเลยด้วย ผมตัดสินใจหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาบันทึกภาพเอาไว้เป็นหลักฐาน เพราะถ้าผมเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังโดยไม่มีหลักฐานยืนยันคงจะไม่มีใครเชื่อผมแหง ๆ ”
เบนจามินกล่าว
.
เมื่อความลับถูกเปิดเผยไซม่อนก็หันไปมองตาขวางตอบโต้เบนจามิน คล้ายกำลังพยายามจะบอกว่า นี่เพื่อนผมเอง! หยุดทำหน้าเลิ่กลั่กแล้วยอมรับซะว่าผมเป็นเพื่อนกับหนู! นี่มันปี 2022 แล้วนะโลกแห่งสันติภาพ! โยนทิ้งความเข้าใจเดิม ๆ ทิ้งไปซะ เข้าใจ๋!
.

.
ถึงแม้เบนจามินจะรู้สึกตกใจเมื่อเห็นเจ้าหนูเข้ามาอยู่ในห้อง แต่เขาก็ไม่ได้พยายามจะจับหรือไล่ตีเจ้าหนูตัวนั้นทันที เพราะด้วยเกรงใจและเห็นแก่ความเป็นเพื่อนสนิทของไซม่อน
.
“ผมสงสารเจ้าหนูตัวน้อยนะ ผมไม่ต้องการจะทำร้ายเขา ก่อนจะตัดสินใจตั้งชื่อให้เขาว่า ‘เชฟซิโต’ ”
เบนจามินกล่าว
.

.
แต่! หนูบ้านเป็นพาหะนำโรค นั่นจึงทำให้ในท้ายที่สุดแล้วเบนจามินก็ต้องทำใจจำกัดบริเวณให้เจ้าหนูตัวน้อยเซฟซิโตอยู่ได้แค่เฉพาะบริเวณนอกบ้านเท่านั้น
.
มิตรภาพของไซม่อนและเชฟซิโตจะยังคงดำเนินต่อไปภายใต้การดูแลอยู่ห่าง ๆ ของเบนจามิน ขณะที่เบนจามินเชื่อว่าหากเจ้าหนูเชฟซิโตไม่ได้กินอาหารอร่อย ๆ เขาก็คงจะต้องทำใจย้ายหนีไปที่อื่นเอง
.
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.