เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กแฟนเพจ "James Bowen & Streetcat Bob" ได้เผยข่าวที่น่าเศร้าว่า "บ๊อบ" น้องแมวส้มชื่อดังได้หลับนิรันดร์จากไปในวัย 14 ปี บ๊อบเคยมีสถานะไร้บ้าน มีชีวิตเร่ร่อนอยู่ข้างถนนก่อนที่ชะตาชีวิตจะพลิกผัน กลายมาเป็นน้องแมวเซเลบที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
.
จากเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจของบ๊อบ ทำให้ "เจมส์ โบเวน" (James Bowen) ผู้ปกครองของเขามีแรงบันดาลใจบรรจงเขียนเล่าเรื่องราวของพวกเขาเป็นหนังสือที่มีชื่อว่า "A Street Cat Named Bob" ซึ่งมันก็ขายดีมากจนได้รับการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ มากกว่า 40 ภาษา รวมทั้งภาษาไทยซึ่งใช้ชื่อว่า "บ๊อบ แมวเตะฝันข้างถนน" หลังจากนั้นมาเจมส์ได้เขียนหนังสือออกมาอีกถึง 3 เล่ม ซึ่งภายหลังได้ถูกนำไปดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า “A Street Cat Named Bob” หรือ “บ๊อบ แมว เพื่อน คน” ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี 

.

เจมส์ผู้ปกครองของบ๊อบบอกว่าเขาสูญเสียบ๊อบไปเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา เนื่องจากความแก่ชราและสังขารที่ร่วงโรย

.

“บ๊อบช่วยชีวิตผม มันคือคำพูดง่ายๆ แค่นั้นแหละที่จะอธิบายความสัมพันธ์ของพวกเรา บ๊อบให้ผมมากกว่าคำว่ามิตรภาพ เมื่อผมมีเขาอยู่เคียงข้างทำให้ผมได้รับรู้และมองเห็นถึงเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ ซึ่งผมลืมมันไปนานแล้ว ความสำเร็จของพวกเราทั้งสองจากหนังสือและภาพยนตร์มันเป็นปาฏิหาริย์ที่ผมเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะประสบความสำเร็จได้มากขนาดนี้“ 
.
“จากความสำเร็จทำให้บ๊อบได้พบกับผู้คนหลายพันคน ได้มีโอกาสสัมผัสกับหลายล้านชีวิตซึ่งไม่เคยมีน้องแมวตัวไหนทำได้และจะไม่มีวันทำได้ ในวันนี้บ๊อบจากผมไปแล้ว ผมรู้สึกว่าแสงสว่างในชีวิตของผมได้ดับลง ผมจะไม่มีทางลืมบ๊อบเขาจะอยู่ในใจของผมตลอดไป”

เจมส์กล่าว

.

เจมส์และบ๊อบโด่งดังไปทั่วโลกหลังจากที่เจมส์ตัดสินใจบรรจงเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์พิเศษที่เกิดขึ้นของชีวิตที่ไร้จุดหมายปลายทางของเขา แล้ววันหนึ่งมันก็ได้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นจนประสบความสำเร็จอย่างเช่นทุกวันนี้ หลังจากที่มีน้องแมวจรจัดที่ไม่เคยมีใครสนใจก้าวเข้ามา กระทั่งเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่สำคัญที่สุดของเขา

.

เรื่องราวของทั้งสองนั้นเริ่มต้นเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นเจมส์ยังเป็นคนไร้บ้าน เร่ร่อนชีวิตดิ่งเหวติดสารเสพติดอย่างหนักจนเกือบต้องตาย...การเล่นดนตรีเปิดหมวกทำให้เขายังพอมีเงินประทังชีวิตอยู่ไปวันๆ เจมส์พยายามเปลี่ยนแปลงกลับตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดสารเสพติด ในตอนนั้นเองที่ทำให้เขาก็ได้พบกับน้องแมวจรจัดสีส้มตัวหนึ่งที่กำลังได้รับบาดเจ็บอยู่ข้างถนน ในตอนแรกเขาไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเพราะสถานะในตอนนั้นก็แทบจะเอาตัวไม่รอด แต่ทว่าสุดท้ายแล้วเพราะด้วยความสงสารและเห็นใจ เจมส์จึงตัดสินใจพาน้องแมวไปรักษา โดยควักเงินในกระเป๋าที่เก็บเอาไว้สำหรับซื้อสารเสพติดมาเป็นค่ารักษากระทั่งน้องแมวหายดี ซึ่งภายหลังทั้งสองก็เริ่มผูกพันกันมากขึ้น นั่นจึงทำให้เจมส์ตัดสินใจรับเลี้ยงน้องแมวส้มตัวดังกล่าวเอาไว้ และตั้งชื่อเขาว่า “บ๊อบ”

.

หลังจากที่บ๊อบได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเจมส์ชีวิตของเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เขาได้รับเงินจากการเล่นดนตรีเปิดหมวกมากขึ้นเพราะบ๊อบน่ารักดึงดูดความสนใจจากผู้คน เจมส์ได้พูดคุยกับผู้คนแปลกหน้ามากขึ้นเพราะพวกเขาอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเขาและบ๊อบ นั่นทำให้เขารู้สึกได้ถึงการมีตัวตนอีกครั้งหลังจากที่เคยรู้สึกมาตลอดว่า เป็นคนไร้ค่าเหมือน ไร้ตัวตนที่ผู้คนมองข้ามไป
.
เจมส์ได้รับกำลังใจและพลังงานดีๆ จากบ๊อบ เขาเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองเลิกใช้สารเสพติดน้อยลงจนกระทั่งหยุดและเลิกได้ในที่สุด การมีบ๊อบเข้ามาทำให้ชีวิตของเจมส์มองเห็นคุณค่าและความหมายของการมีชีวิตอยู่มากขึ้น 
.
ในเวลาต่อมาเรื่องราวของเจมส์และบ๊อบโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์พร้อมกับภาพที่น่ารักแสนอบอุ่นของชายนักดนตรีมาดเซอร์ที่มีน้องแมวส้มนั่งอยู่บนไหล่ หรือไม่ก็นั่งอยู่ข้างๆ อย่างสงบรู้งานท่ามกลางฝูงชน เพื่อเป็นกำลังใจและส่วนหนึ่งที่ทำให้การนำเสนอบทเพลงจากชายมาดเซอร์ดูมีสีสันน่าสนใจมากขึ้น ทั้งสองกลายเป็นที่สนใจและจับตามอง จนสำนักข่าวทั้งออนไลน์และออฟไลน์รุมสัมภาษณ์เรื่องราวของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าผู้คนอยากจะรู้จักน้องแมวส้มและนักร้องมาดเซอร์คนนี้ให้มากขึ้น...
.
หลังจากนั้นเจมส์จึงได้ตัดสินใจเขียนหนังสือชื่อ "A Street Cat Named Bob" เพื่อบอกเล่าจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างเขากับบ็อบผ่านตัวอักษร ซึ่งหลังจากที่หนังสือดังกล่าวถูกวางจำหน่ายก็ขายดีมากๆ นั่นทำให้เจมส์ต้องเขียนภาคต่ออีกหลายเล่ม ได้แก่ The World According to Bob , A Gift from Bob และ The Little Book of Bob ซึ่งได้รับการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ มากกว่า 40 ภาษา

.

นอกจากนั้นแล้วเมื่อปี 2559 เรื่องราวของทั้งสองยังถูกนำมาดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์ที่มีชื่อเรื่องเดียวกันกับชื่อหนังสือว่า “A Street Cat Named Bob” หรือ “บ๊อบ แมว เพื่อน คน” ซึ่งในภาพยนตร์ดังกล่าวบ็อบได้รับบทเป็นนักแสดงนำเคียงคู่กับนักแสดงอย่าง “ลุค เทรดอะเวย์” (Luke Treadaway) ด้วย

.

ชีวิตของเจมส์มีจุดหมายปลายทางได้พบกับความหมายของชีวิตเพราะบ๊อบ ส่วนบ๊อบก็ได้พบกับคนที่พร้อมรัก เต็มใจดูแลและเสียสละความสุขให้  บ๊อบได้รู้จักกับคำว่า "บ้าน" ได้กินอิ่มทุกมื้อ มีเบาะนุ่มๆ นอน ได้ออกเที่ยวไปในหลายๆ ประเทศ ทั้งสองเป็นครอบครัวและส่วนหนึ่งที่สำคัญในชีวิตของกันและกัน และผู้คนก็รักพวกเขา
.
เวลาผ่านไปร่างกายของบ๊อบก็เริ่มโรยราสุดท้ายก็ต้องบอกลาเจมส์ครอบครัวและเพื่อนที่แสนดีไปอย่างสงบ หลังจากที่แฟนคลับทราบข่าวร้ายของบ็อบต่างก็รู้สึกเสียใจและร่วมเข้าแสดงความอาลัย ผ่านหน้าเฟซบุ๊กแฟนเพจ "James Bowen & Streetcat Bob" ด้วย หลายคนส่งกำลังใจให้กับเจมส์ บอกให้เขาเข้มแข็งเพื่อก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาที่น่าเศร้านี้ไปให้ได้ ทุกคนเข้าใจว่าเจมส์กำลังสูญเสียอะไรไป...

.
ขณะที่เจมส์ได้เขียนไว้อาลัยบนหน้าเฟซบุ๊กแฟนเพจ "James Bowen & Streetcat Bob" ว่า
.
"บ๊อบได้ให้ผมมากกว่าความเป็นเพื่อน ตอนที่มีเขาอยู่ข้าง ๆ ผมได้ค้นพบจุดหมายปลายทางและความหมายของการดำเนินชีวิตที่มันเคยขาดหายไป"
.
"บ๊อบได้พบกับผู้คนหลายพันคน และได้เข้าไปนั่งในใจของผู้คนนับล้าน" 
.
"ผมรู้สึกว่าแสงสว่างในชีวิตของผมหายไป ผมจะไม่มีวันลืมเขาเลย"
.

.
ด็อกคลิปแสดงความเสียใจกับการจากไปของบ๊อบและเป็นกำลังใจให้กับเจมส์ด้วยนะครับ เรื่องราวของพวกเขาสวยงามและจะช่วยทำให้ผู้คนมองเห็นคุณค่าของสัตว์จรจัดและคุณค่าชีวิตตัวเองมากขึ้น  ความรักจากสัตว์ตัวน้อยมีพลังที่ยิ่งใหญ่นอกจากจะทำให้พวกเขาได้พบกับคนที่แสนดี ได้มีบ้านที่อบอุ่นแล้ว พวกเขายังเป็นกำลังใจที่ยอดเยี่ยมช่วยเยียวยา รักษาหัวใจที่บอบช้ำของคนที่พวกเขารักได้ จนสามารถกลายเป็นคนใหม่ที่เข้าใจในความหมายของชีวิตและเรียนรู้ที่จะเข้มแข็งเพื่อมีชีวิตที่ดีขึ้น เชื่อว่าเจมส์จะเข้มแข็งและผ่านเรื่องน่าเศร้าในวันนี้ไปได้ บ๊อบจะเป็นความทรงจำที่งดงามของเขาตลอดไป... 

.

.

 

.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip 
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com

“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”

.

.