เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่เด็กกลุ่มหนึ่งบังเอิญผ่านไปพบลูกหมาตัวน้อยจำนวน 6 ตัวในรังเล็ก ๆ ข้างไซต์ก่อสร้าง ด้วยสงสารจึงตัดสินใจพากลับไปดูแลที่บ้าน ซึ่งนั่นทำให้แม่หมาจรจัดที่ออกไปหาอาหารแทบคลั่งหลังกลับมาแล้วไม่พบลูกน้อยในรัง
แต่แล้วเรื่องทุกอย่างก็คลี่คลายเมื่อองค์กรช่วยเหลือสัตว์ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ
.
หลังจากที่เด็ก ๆ พาลูกหมาน้อยทั้ง 6 ตัวกลับไปดูแลที่บ้าน พวกเขาก็เริ่มตระหนักว่าการดูแลลูกหมาวัยแรกเกิดนั้นยากเกินความสามารถและหากลูกหมายังไม่ได้รับการความช่วยเหลือจากผู้มีประสบการณ์ก็อาจจะไม่รอด เด็ก ๆ จึงตัดสินใจติดต่อองค์กรช่วยเหลือสัตว์ โฮป ฟอร์ พอว์ส (Hope For Paws) พร้อมกับเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับเจ้าหน้าที่ฟัง โชคดีที่เจ้าหน้าที่เข้าใจและยินดีให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
.
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไม่ได้รับลูกหมาทั้ง 6 ตัวย้ายเข้าไปดูแลในศูนย์พักพิงสัตว์ขององค์กรทันที แต่ทว่าพวกเขากลับพาลูกหมาไปวางไว้ในจุดเดิมตามคำบอกเล่าของเด็ก ๆ ที่บริเวณข้างไซต์ก่อสร้าง พร้อมกับกรงผ้าใบและผ้าห่มผืนโตที่จะทำให้พวกเขาอบอุ่นขึ้นเพื่อรอให้แม่หมากลับมาพบอีกครั้ง เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าแม่หมาจะยังคงวนเวียนอยู่ในบริเวณนั้นด้วยหัวใจที่แตกสลายและสัญชาตญาณความเป็นแม่หลังจากที่พบว่าลูกหายไป

.
เมื่อทุกอย่างพร้อมเจ้าหน้าที่ค่อย ๆ ถอยห่างจากกรงลูกหมาเพื่อหาที่ซ่อนตัวเฝ้ารอการปรากฏตัวของแม่หมาอีกครั้ง เวลาผ่านไปไม่นานนักเสียงร้องงอแงของลูกหมาก็นำทางแม่หมาให้มาพบลูกน้อยของเธออีกครั้ง เธอออกมาจากที่ซ่อนก่อนจะเร่งเดินเข้าไปหาลูกน้อยด้วยความเป็นห่วงหลังจากที่มั่นใจว่าจะปลอดภัยจากคนแปลกหน้า
.
เจ้าหน้าที่ให้เวลาพวกเขาได้ปลอบโยนกันและกันก่อนจะเดินเข้าไปผูกมิตรกับแม่หมาด้วยอาหาร แต่ทว่าเธอกลับไม่สนใจถึงแม้ว่าจะหิวมากแค่ไหน ก่อนจะเริ่มแสดงความเกรี้ยวกราดขู่ร้องในลำคอให้เจ้าหน้าที่ถอยห่างด้วยกลัวว่าลูกน้อยจะถูกทำร้ายและถูกพรากไปอีก ขณะที่สายตาของเธอจับจ้องลูกน้อยที่กำลังร้องงอแงอยู่อย่างไม่ลดละ เมื่อสถานการณ์ดูไม่ค่อยดีเจ้าหน้าที่จึงต้องเปลี่ยนแผนหาโอกาสคล้อง "สายจูงแห่งความโชคดี" บนคอของเธอ ก่อนจะเร่งช่วยพาครอบครัวที่ยากไร้ออกจากสถานที่ฝันร้าย

.

.
แม่หมาและลูกหมาถูกพาไปคลินิกสัตว์เพื่อตรวจสุขภาพ โชคดีที่สัตวแพทย์ไม่พบปัญหาสุขภาพที่ต้องกังวลใจ พร้อมแจ้งว่าน้องทุกตัวสุขภาพยังคงแข็งแรงดี แม่หมาที่เกรี้ยวกราดจู่ ๆ ก็เริ่มสงบลงหลังจากที่ได้รับการปลอบโยนจากเจ้าหน้าที่และสัตวแพทย์ ดูเหมือนว่าเธอสัมผัสและรับรู้ได้ถึงความปรารถนาดีของเจ้าหน้าที่แล้ว
.
เจ้าหน้าที่ตั้งชื่อให้แม่หมาว่า "นาวาลินา" เธอและลูกน้อยได้รับการดูแลอย่างดีในศูนย์พักพิงขององค์กร หลังจากนั้นประมาณ 3 สัปดาห์ถัดมาหัวใจของนาวาลินาก็ได้รับการเยียวยาด้วยความน่ารักของลูกหมาตัวน้อย ก่อนที่เธอจะเผยความอ่อนโยนและแสนดีให้เจ้าหน้าที่ได้เห็น นาวาลินาเป็นแม่ที่ดีคอยดูแลลูกน้อยไม่ห่าง ขณะที่ลูกหมาตัวน้อยก็ดูมีความสุขมาก พวกเขาค่อย ๆ เติบโตขึ้นและเริ่มซุกซนบ้างแล้วล่ะ

.

.
ตอนนี้แม่หมาและลูกน้อยไม่ต้องทนหิว มีอาหารดี ๆ ได้กินอิ่มครบทุกมื้อ สามารถนอนหลับสนิทอยู่ในสถานที่ปลอดภัยภายใต้การดูแลของคนใจดีแล้ว หลังจากนี้ไปพวกเขาไม่ต้องคอยหวาดกลัวพายุฝนและลมหนาวที่ข้างไซต์ก่อสร้างที่เติมไปด้วยอันตรายแล้ว
.

.

.
เมื่อลูกหมาโตพร้อมเจ้าหน้าที่จะประกาศหาบ้านหลังใหม่ที่ดีและเหมาะสมให้กับพวกเขาเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง แน่นอนแม่หมาที่แสนดีก็จะได้รับโอกาสนั้นด้วยเช่นกัน
.
รับชมคลิป
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.