เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา ขณะที่นายสัตวแพทย์ “อีกอร์ ฮอแลนดา” (Igor Holanda) กำลังวุ่นอยู่กับงานในคลินิกรักษาสัตว์ของเขาในประเทศบราซิล จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเล็ก ๆ เดินเข้ามาภายในคลินิก ด้วยสงสัยอีกอร์จึงหยุดงานที่กำลังทำอยู่แล้วหันหน้าไปมองต้นเสียง ก่อนจะได้พบกับสี่ขาแปลกหน้าที่ไม่มีอยู่ในตารางนัดผู้ป่วยเดินเข้ามาด้วยท่าทีประหม่าก่อนหยุดยืนอยู่บริเวณกลางคลินิกมองซ้ายทีขวาทีดูเลิ่กลัก... จึงทำให้สัตวแพทย์อีกอร์เดาได้ไม่ยากเลยว่านี่อาจจะเป็นการเข้ามารับบริการรักษาที่คลินิกเป็นครั้งแรกของเขา
.
.
“เขาเดินเข้ามาในคลินิกของผมด้วยอาการสงบ ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่กลางคลินิก ในตอนแรกผมก็ยังไม่เข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนะครับ ผมพยายามมองไปรอบ ๆ เพื่อมองหาใครก็ตามที่ดูเหมือนจะเป็นผู้ปกครองของน้องหมาแปลกหน้าที่ช่วยพาเขามาที่คลินิก แต่ทว่าผมกลับไม่เจอใครเลย”
อีกอร์กล่าว
.
.
น้องหมาแปลกหน้ามีอาการประหม่าหยุดยืนอยู่ที่เดิมบริเวณกลางคลินิกและมีอาการมึนงงไม่ยอมขยับตัวเดินไปไหน สัตวแพทย์อีกอร์พยายามทำความเข้าใจประมวลความน่าจะเป็นก่อนจะสันนิฐานว่าน้องหมาแปลกหน้าอาจจะมีสถานะไร้บ้าน ดังนั้นเขาจึงไม่มีผู้ปกครองติดตามมาดูแล ด้วยความสงสัยสัตวแพทย์อีกอร์จึงเดินเข้าไปทักทายและซักประวัติน้องหมาใกล้ ๆ และในตอนนั้นเองที่เขาได้พบว่าที่บริเวณต้นคอของน้องหมาแปลกหน้ามีบาดแผลขนาดใหญ่ ก่อนจะมั่นใจว่าน้องหมาเข้ามาที่คลินิกของเขาเพื่อต้องการขอความช่วยเหลือหวังได้รับการรักษา...
.
.
“เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้น้องหมาผมก็เห็นบาดแผลขนาดใหญ่ที่บริเวณต้นคอของเขา ในตอนนั้นเองที่ผมเริ่มตระหนักได้ว่าน้องหมาน่าจะเดินเข้ามาที่คลินิกของผมเพื่อขอความช่วยเหลือ”
.
ถึงแม้ว่าจะมีสถานะไร้บ้านไร้ผู้ปกครองคอยดูแล ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา อีกทั้งเดินเข้ามาขอการรักษาโดยไม่ได้นัดเวลาเอาไว้ล่วงหน้า แต่สัตวแพทย์อีกอร์กลับไม่ลังเลใจที่จะให้ความช่วยเหลือกับน้องหมาแปลกหน้าผู้น่าสงสารที่กำลังบาดเจ็บในทันที
.
“ผมพาเขาเดินเข้าไปที่ห้องตรวจเพื่อประเมินอาการเบื้องต้น ก่อนจะค่อย ๆ เริ่มทำความสะอาดบาดแผลให้กับเขาอย่างเบามือ”
อีกอร์กล่าว
.
.
น้องหมาน่ารักมาก เขาทำตัวเป็นเด็กดียอมเชื่อฟังสัตวแพทย์อีกอร์อย่างว่าง่ายในระหว่างการรักษาบาดแผลที่บริเวณต้นคอ น้องหมาไม่ได้แสดงอาการดุร้ายหรือหวาดกลัวแต่อย่างใด เขาเชื่อใจยอมปล่อยให้สัตวแพทย์อีกอร์สัมผัสบาดแผลส่วนสงวนที่สร้างความเจ็บปวดได้ตามใจทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะได้พบกันเป็นครั้งแรก ซึ่งค่อนข้างน่าเหลือเชื่อแต่ก็เกิดขึ้นแล้ว เป็นไปได้มากว่าน้องหมาอาจจะสามารถรับรู้ได้ถึงความปรารถนาดีและเข้าใจว่าชายแปลกหน้าที่สวมถุงมือ สวมแมสก์และแต่งตัวในชุดยูนิฟอร์มแปลกตาสามารถช่วยทำให้เขาหายจากอาการเจ็บปวดได้
.
หลังจากที่ตรวจร่างกายและเริ่มรักษาสัตวแพทย์อีกอร์ก็ได้พบว่าบาดแผลบริเวณต้นคอของน้องหมาแปลกหน้านั้นรุนแรงกว่าที่คิดเอาไว้มาก จากการประเมินเบื้องต้นก็อาจจะต้องใช้เวลาในการรักษานานพอสมควร ซึ่งแน่นอนว่านั่นหมายถึงค่ารักษาจำนวนมากที่จะตามมา แต่อย่างไรก็ตามอีกอร์ก็ยินดีที่จะช่วยพร้อมรับน้องหมาไว้เป็นผู้ป่วยในความดูแลจนกว่าเขาจะหายกลับมาเป็นปกติดีอีกครั้ง...
.
.
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ช่วยเหลือเขานะ พระเจ้าได้นำทางน้องหมาจรจัดที่ไร้ที่พึ่งมาที่คลินิกเพื่อให้ผมได้มีโอกาสแสดงความเมตตาต่อสัตว์ยากไร้ ด้วยการช่วยรักษาและดูแลเขาจนกว่าจะหายดี”
อีกอร์กล่าว
.
คงจะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ เลยนะครับ ถ้าน้องหมาแปลกหน้าที่แสนรู้และแสนดีตัวนี้จะได้รับมากกว่าความเมตตาและการรักษาบาดแผลจนหายดี แล้วยังได้มีโอกาสเปลี่ยนสถานะเป็นน้องหมามีเจ้าของได้รับการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัว
.
“การรักษาบาดแผลของน้องหมาแปลกหน้าอาจจะต้องใช้เวลานานกว่าปกติเล็กน้อย แต่ผมยืนยันว่าเขาจะหายดีได้อย่างแน่นอน หลังจากนี้พระเจ้าจะนำพาเขาไปพบกับใครสักคนที่พร้อมรับอุปการะและสามารถมอบความรักที่เขาสมควรได้รับให้กับเขาได้”
อีกอร์กล่าว
.
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับอนาคตแล้วล่ะว่าน้องหมาแปลกหน้าแสนรู้ตัวนี้จะสามารถมัดใจและทำให้สัตวแพทย์อีกอร์ใจอ่อนจนยอมรับอุปการะหรือช่วยประกาศหาบ้านให้หรือไม่ คงต้องช่วยกันลุ้นและคอยติดตามกันต่อไป หวังว่าจะมีตอนจบที่น่าประทับใจนะครับ
.
คลิปวิดีโอภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด ขณะที่น้องหมาแปลกหน้าเดินเข้ามาขอความช่วยเหลือจากสัตวแพทย์อีกอร์ในคลินิกสัตว์ของเขา
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
