เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา “แชนน่า สเตมี่”(Shana Stamey) คุณแม่ชาวยิปซีอายุ 35 ปีและครอบครัว ได้รับน้องหมาสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด ขนสีขาว เพศเมีย จากศูนย์พักพิงท้องถิ่นเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้านที่อบอุ่นของพวกเขาที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวได้ไม่นานนัก แชนน่าและครอบครัวก็ได้รับของขวัญสุดพิเศษจำนวนมากจากน้องหมาสมาชิกใหม่...
.
ของขวัญพิเศษที่ว่านั่นก็คือลูกๆ ตัวน้อยของเธอที่ได้กำเนิดมาพร้อมๆ กันมากถึง 8 ชีวิต ทุกตัวมีสีสันตามธรรมชาติที่แตกต่างกันออกไป แต่ทว่ามีลูกน้อยตัวหนึ่งของเธอที่ดูโดดเด่นกว่าตัวอื่นๆ เพราะเขามีสีขนที่ไม่ธรรมดา ซึ่งมีลูกหมาน้อยตัวนักที่จะมีสีโดดเด่นเป็นสีเขียวเลมอนดูสดใสแบบนี้ แชนน่าจึงตั้งชื่อให้กับเขาว่า “ฮัคล์”(Hulk) เหมือนกับตัวละครที่มีพละกำลังมากซึ่งเป็นผลจากการทดลองที่ผิดพลาดจนทำให้ ดร.บรูซ แบนเนอร์ กลายร่างเป็นยักษ์ตัวสีเขียวในภาพยนตร์ชื่อดังของ มาร์เวล
.
แต่ดูไปดูมาแล้ว...สีเขียวเลมอนที่แชนน่ากล่าวถึงดูเหมือนจะค่อนไปทางสีเหลืองแบบตัวการ์ตูนที่ชื่อ “พิคาชู” หรือ “ปิ๊กะจู” โปเกมอนที่มีพลังไฟฟ้าแสนโวลต์ซะมากกว่านะ...555
.
.
“ตอนที่เขาคลอดออกมาเป็นสีเขียวเลมอนสดใส เขาจึงดูโดดเด่นจากพี่น้องทันที”
แชนน่าให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวทูเดย์
.
.
แล้วอะไรล่ะที่ทำให้ฮัคล์ลูกหมาตัวน้อยมีขนสีเขียวเลมอนที่ค่อนไปทางสีเหลืองแบบนี้?
.
“ตอนที่อยู่ภายในถุงน้ำคร่ำในท้องของแม่ ฮัคล์อาจจะขับถ่ายอุจจาระแรก หรือ 'ขี้เทา' (meconium) ออกมา ซึ่งเป็นไปได้มากว่า อุจจาระเหล่านั้นไม่ได้เคลื่อนตัวไปไหนจึงเลอะเปื้อนตัวเขาตั้งแต่อยู่ในท้องของแม่”
“ซูซาเน ชอบชูลี” (Suzanne Cianciulli) นักเทคนิคสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์ Junaluska ในนอร์ทแคโรไลนาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวทูเดย์
.
ถึงแม้ว่าตอนแรกแชนน่าจะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฮัลค์ แต่เธอจำได้ว่ามีผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์เคยโพสต์เรื่องราวในทำนองนี้ลงบนเฟซบุ๊กอยู่ด้วยเหมือนกันเมื่อหลายปีก่อน และพวกเขาบอกว่าสีเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายกับลูกหมาตัวน้อยแต่อย่างใด...
.
“ฉันเองก็หวังอยากให้เขาเป็นสีแบบนี้ตลอดไปนะ แต่ฉันคิดว่าถ้าแม่หมาเลียทำความสะอาดบนตัวฮัคล์ รวมถึงถ้าฉันได้มีโอกาสอาบน้ำครั้งแรกให้ สีบนตัวที่มีอยู่ในตอนนี้ก็คงจะค่อยๆ จางลงไปเรื่อยๆ”
แชนน่ากล่าว
.
หลังจากเรื่องราวของฮัลค์ถูกเผยแพร่ เขาก็กลายเป็นลูกหมาตัวน้อยที่เกิดมาพร้อมกับความโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ทันที ผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์หลายคนกล่าวชื่นชมความน่ารักและแตกต่างของเขา
.
แต่ทว่าในขณะเดียวกันก็มีผู้ใช้งานอีกหลายคนที่ยังคงไม่เชื่อว่าลูกหมาตัวน้อยจะออกมาเป็นสีแบบนั้นจริง พร้อมกับคาดเดากันไปต่างๆ นานาว่าลูกหมาอาจจะถูกจับย้อมสีขนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการนำไปขายต่อ...
.
ในขณะที่ผู้ใช้งานบางกลุ่มได้แสดงความเป็นห่วงและกังวลใจว่าลูกหมาจะถูกทิ้งเพราะสีขนที่แตกต่างจากพี่น้องของเขาในวันนี้ด้วย...
.
เมื่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์เริ่มมากขึ้น แชนน่าก็ได้ออกมากล่าวยืนยันถึงความจริงที่เกิดขึ้นอีกครั้งว่า ลูกหมาตัวน้อยที่ชื่อฮัลค์ เขาเกิดมาพร้อมกับขนสีเขียวเลมอนอย่างที่เห็นในภาพตั้งแต่แรกเกิดจริงๆ และถึงแม้ว่าฮัลค์จะเกิดมาพร้อมกับความแตกต่าง แต่ทว่านั่นก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่จะทำให้เธอรู้สึกรักเขาน้อยลงไปได้เลย... หลังจากนี้แชนน่าวางแผนจะหาบ้านหลังใหม่ให้กับลูกหมาตัวน้อยทั้ง 8 ต่อไป โดยยืนยันว่าจะไม่คิดค่าใช้จ่ายสำหรับสิทธิ์การรับเลี้ยงด้วย...
.
“เขาเป็นลูกหมาในความดูแลของฉัน และฉันจะรับผิดชอบดูแลเขาเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ตอนนี้เขามีสุขภาพที่ดีมากและอีกไม่นานเขาจะเติบโตขึ้นเป็นน้องหมาที่น่ารักแน่นอน”
แชนน่ากล่าว
.
ซึ่งหลังจากที่เรื่องราวได้ถูกเผยแพร่ออกไปเป็นวงกว้าง เพื่อนๆ ของแชนน่าหลายคนได้ติดต่อเข้ามาหาเธอเพื่อขอรับอุปการะลูกหมาตัวน้อยแล้ว และในตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการตัดสินใจ แชนน่าเชื่อว่าลูกหมาตัวน้อยทั้ง 8 ตัวจะได้มีบ้านและครอบครัวที่พร้อมมอบความรักและเอาใจใส่ได้ครบทุกตัวอย่างแน่นอน หากสิ่งที่คาดหวังไว้เกิดผิดพลาดแน่นอนว่าแชนน่ามีความรับผิดชอบมากพอ เธอจะรับเลี้ยงลูกหมาตัวน้อยทั้งหมดเอาไว้เอง...
.
“ถ้าเกิดไม่มีใครมารับพวกเขาไปเลี้ยงจริงๆ ฉันก็จะเลี้ยงพวกเขาเอาไว้เอง ก็พวกเขาเป็นลูกฉันนิ”
แชนน่ากล่าว
.
ขอบคุณข้อมูลจาก Today, Metro
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
