เมื่อ "รักแท้ของน้องหมา" มั่นคงกว่า "รักที่มนุษย์มีให้กัน" น้องหมาที่เคยเป็นส่วนหนึ่งในช่วงเวลาดีๆ ของมนุษย์คู่รักกลายเป็น "ผู้เคราะห์ร้าย" เมื่อบ้านที่เคยอบอุ่นร้าวฉาน สมาชิกที่เคยเป็นครอบครัวกระจัดกระจายออกเพื่อดิ้นรนมีชีวิตใหม่... ส่วนน้องหมากลับหมดค่าไร้ความหมายกลายเป็นส่วนเกินและไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไปทั้งๆ ที่หัวใจของพวกเขาก็ยังคงรักทุกคนในครอบครัวเช่นเดิม และไม่เคยมีส่วนทำให้ความรักของนายรักล้มเหลวหรือทำตัวเกเรให้เป็นปัญหาเลย...ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ผิดนะ...แบบนี้ดูไม่ค่อยยุติธรรมกับเหล่าน้องหมาสักเท่าไหร่นัก...
.
"เบลี่"(Bely) เป็นหนึ่งในน้องหมาที่มีประสบการณ์ดังที่กล่าวมา เขาเคยมีครอบครัวที่ดีแต่แล้ววันหนึ่งเขากลับต้องกลายมาเป็นส่วนเกินอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว...
.
ชีวิตของเบลี่ไม่ง่ายเลยนะกว่าจะได้รับโอกาสมีบ้านเป็นครั้งที่สอง...ใช่ครับ! ก่อนหน้านี้เบลี่เคยมีประสบการณ์เป็นน้องหมาจรจัดใช้ชีวิตเร่ร่อนมาก่อน ย้อนไปเมื่อปี 2559 ด้วยความโชคดีเบลี่ได้เจอกับ “ซินเนีย” (Ksenia) สาวชาวรัสเซียใจดี เธอยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเบลี่ขณะที่เขากำลังสิ้นหวังนอนหมดแรง หายใจรวยรินอยู่บริเวณข้างถนน ในตอนนั้นเบลี่ไม่ไว้ใจมนุษย์คนไหนเลยจิตใจเขาค่อนข้างบอบซ้ำจากนายรักคนแรก ด้วยความสงสารและเห็นใจซินเนียจึงไม่ยอมแพ้คอยแวะมาหาเบลี่อยู่ทุกๆ วัน เพื่อพยายามผูกมิตรและแสดงให้เห็นว่าเธอตั้งใจมาช่วยจริงๆ ไม่นานเบลี่ก็เริ่มใจอ่อนและยอมเปิดใจ... หลังจากนั้นซินเนียได้ช่วยพาเบลี่ไปส่งที่ศูนย์พักพิงสัตว์ Zoozashchita ที่ตั้งอยู่ใก้ล้ๆ และที่นั่นทำให้เขามีชื่อว่า “เบลี่”
.
.
เมื่อเบลี่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในความดูแลของศูนย์พักพิงสัตว์ Zoozashchita เขาก็ได้รับการตรวจร่างกายจากสัตวแพทย์ ...น่าเศร้าที่ผลตรวจแสดงให้เห็นว่าร่างกายของเขาไม่แข็งแรงเอาเสียเลย...สัตวแพทย์พบว่าเบลี่กำลังป่วยด้วยหลายโรค แต่ที่สร้างปัญหามากที่สุดในตอนนั้นคือโรคลำไส้อักเสบ อย่างไรก็ตามเบลี่ก็ไม่เคยยอมแพ้เขามีหัวใจนักสู้ ด้านเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ และสัตวแพทย์ก็คอยดูแลและช่วยเหลือเขาขณะอยู่ในขั้นตอนการรักษาเป็นอย่างดีจนเวลาผ่านไปไม่นานนักอาการของเบลี่ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเขากลับมาแข็งแรงและเอาชนะโรคร้ายที่รุมเร้าได้จนสำเร็จ
.
เบลี่เริ่มปรับตัวเพราะได้รับความรักจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ เขากลายเป็นน้องหมาที่น่ารักและช่างอ้อนจนเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ หลายคนหลงรักเขา เมื่อร่างกายและสภาพจิตใจของเบลี่พร้อมแล้วเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ จึงประกาศหาบ้านให้กับเขา...
.
หลังจากที่ใช้เวลาอยู่นานในการประกาศหาบ้านให้กับเบลี่...ในที่สุดวันดีๆ ก็มาถึง “จูเลีย” (Julia) และสามี เดินทางมีที่ศูนย์ฯ และได้พบกับเบลี่ ความน่ารักและนิสัยช่างอ้อนทำให้ทั้งคู่ตกหลุมรักเขาจูเลียและสามีจึงตัดสินใจขอรับอุปการะเบลี่สู่ครอบครัวของพวกเขา พร้อมกับตั้งชื่อใหม่ให้เบลี่ว่า “มาร์วิน” (Marvin) เพื่อต้อนรับสู่ชีวิตอีกครั้ง คุณพ่อคุณแม่คนใหม่แสดงออกว่ารักมาร์วินมาก ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ มั่นใจว่าพวกเขาน่าจะเป็นบ้านที่อบอุ่นให้กับมาร์วินได้จริงๆ ดูเหมือนว่าอนาคตของมาร์วินกำลังไปได้ดีเลยล่ะ มาร์วินได้ออกมาเดินเล่นแทบจะทุกวัน มีคนคอยกอดเวลาที่ต้องการความรักด้วย...
.
.
.
แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตของมาร์วินก็เริ่มเปลี่ยนไปอีกครั้ง เมื่อจูเลียและสามีต้องแยกทางกันด้วยเหตุผลบางอย่าง จูเลียต้องการพามาร์วินไปอยู่ด้วยแต่ทว่าติดปัญหาในเรื่องของการเดินทางเพราะจูเลียต้องย้ายไปอยู่อีกเมืองซึ่งอยู่ไกลมากจากบ้านหลังเดิม เธอจึงจำใจให้สามีเป็นฝ่ายดูแลมาร์วินต่อ...
.
หลังจากนั้นมาร์วินได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ของคุณพ่อที่ตั้งอยู่ในค่ายทหาร ที่นั่นมาร์วินไม่ได้รับการดูแลที่ดีอย่างที่เคยเป็นมา เมื่อไม่มีความสุขและรับรู้ถึงคำว่าส่วนเกินมาร์วินก็หนีออกจากบ้าน แต่ทว่าไม่นานนักเขาก็ถูกส่งตัวกลับไปหาคุณพ่อของเขาที่บ้านหลังเดิมอีกครั้ง...
.
จนกระทั่งสองเดือนถัดมาคุณพ่อของมาร์วินก็ได้ตัดสินใจพาเขาไปฝากไว้ที่ศูนย์พักพิงสัตว์ท้องถิ่นในเมือง เขาอธิบายเหตุผลและสัญญากับเจ้าหน้าที่ของศูนย์ว่า เขาจำเป็นจะต้องไปปฏิบัติภารกิจที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจแล้วจะรีบกลับมารับมาร์วินอย่างแน่นอน... แต่ทว่าเวลาล่วงเลยผ่านไปนานหลายเดือนกลับไร้วี่แววคุณพ่อของมาร์วิน...หรือนี้มีความหมายว่าเขาจะไม่กลับมาอีกแล้ว?
.
แต่สำหรับมาร์วินแล้วเขาเริ่มรับรู้ได้แล้วว่า นี่คงจะเป็นการถูกทิ้งซ้ำเป็นครั้งที่สอง ช่วง 2-3 สัปดาห์แรก มาร์วินเขาเหม่อลอยและไม่สนใจความเป็นไปรอบข้างเลย เอาแต่นั่งซึมอยู่ที่มุมห้องของศูนย์พักพิง เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ อธิบายว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับมาร์วินดูเหมือนว่าเขากำลังร้องไห้เหมือนเด็กน้อยและเป็นแบบนั้นอยู่นานหลายคืน ซึ่งภาพที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าหน้าศูนย์ฯ รู้สึกปวดใจมาก ดังนั้นเพื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหลังจากที่แน่ใจแล้วว่าทั้งหมดนี้คุณพ่อของมาร์วินพยายามบอกอ้อมๆ ว่าไม่ต้องการมาร์วินอีกต่อไปแล้วเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ จึงเริ่มประกาศตามหาบ้านหลังใหม่ให้กับเขาอีกครั้ง...
.
ภาพของมาร์วินถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ และนั่นทำให้จูเลียคุณแม่ของมาร์วินได้รับทราบเรื่องราวที่ลูกชายสี่ขาถูกทอดทิ้ง... สิ่งที่เกิดขึ้นแทบทำเธอหัวใจสลาย จูเลียรีบติดต่อกลับไปยังศูนย์พักพิงเพื่อขอรับตัวมาร์วินกลับมาอยู่กับเธอ แต่ทว่าติดปัญหาใหญ่เมื่อระยะทางที่ไกลกว่า 2,000 กิโลเมตรทำให้เธอต้องคิดหนัก...
.
แต่โชคดีที่นักสิทธิสัตว์ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยจูเลียและมาร์วินเอาไว้ พวกเขาช่วยกันจัดกิจกรรม “พามาวินกลับบ้าน” ระดมทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการพามาร์วินกลับมาเจอจูเลียอีกครั้ง จากการประเมินค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการนี้อาจจะต้องใช้เงินราวๆ 20,000 รูเบิล หรือ ประมาณ 10,000 บาท แต่แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพียงแค่ 1 วันยอดการระดมทุนก็เกินเป้าที่ตั้งเอาไว้มาก ซึ่งเงินที่ได้มายอดรวม 34,224 รูเบิล หรือ ประมาณ 17,000 บาทเลยทีเดียว
.
เมื่อมีทุนสำหรับค่าใช้จ่ายในการเดินทางของมาร์วิน จูเลียตก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปรับมาร์วินกลับบ้านทันที...
.
หลังจากเดินทางไปกลับกว่า 4,000 กิโลเมตรวันนี้ มาร์วิน หรือ เบลี่ก็ได้กลับมาอยู่ในอ้อมกอดของจูเลียคุณแม่ได้อีกครั้งและดูเหมือนว่ามาร์วินเขายินดีที่ได้พบหน้าคุณแม่จูเลียคนที่เขาเคยมอบทั้งหัวใจให้อีกครั้ง มาร์วินยังส่ายหางและกระโดดโลดเต้นได้ถึงแม้ว่าเขาต้องผ่านวันร้ายๆ มาก่อนหน้านี้รักของเขายังมั่นคง...และดูเหมือนว่ามาร์วินจะไม่โกรธหรือปฏิเสธสำหรับการที่จะต้องเข้าไปอยู่ในบ้านกับคุณแม่หลังจากนี้...
.
อย่างไรก็ตามเป็นความโชคดีของมาร์วินที่อย่างน้อยยังมีคุณแม่ที่ต้องการเขาอยู่ไม่ต้องไปเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง หวังว่าหลังจากนี้นายจะมีชีวิตที่ดีและมีความสุขกับคุณแม่ของนายได้ตลอดไปนะมาร์วิน...
.
ขอบคุณข้อมูลจาก Boredpanda, zoozashchita, Защита животных Каменск-Уральский
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
