ช่วงเวลาสุดประทับใจ น้องหมาพบปาฏิหาริย์ได้กลับมาโอบกอดคุณแม่อีกครั้งหลังพายุทอร์นาโดถล่ม

...กำลังโหลดข้อมูล...

.

.

.

เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาสำนักข่าวท้องถิ่นของเมืองโลแกน รัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีรายงานข่าวเตือนภัยพายุทอร์นาโดระดับ EF2 ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า เมื่อทราบข่าว “บรูซ” (Bruce) และ “โอน่า ดันแลบ” (Ona Dunlap) ก็รีบเปิดประตูออกไปดูสถานการณ์นอกบ้านทันที

.

บรูซพบว่าสภาพอากาศนอกบ้านยังคงปกติดีอยู่ ไม่มีลมหรือสัญญาณของพายุเลยซึ่งผิดกับรายงานข่าว บรูซเดินกลับไปบอกกับโอน่าภรรยาของเขาว่า “ดูเหมือนทุกอย่างปกติดีนะ” แต่ทว่า “จูลี่ มัวร์”(Julie Moore) เพื่อนบ้านของเขากลับรีบตะโกนจากบ้านของเธอเพื่อย้ำเตือนด้วยความเป็นห่วงว่า

.

“มันต้องมีสิ! เราต้องไปที่หลบภัยตอนนี้เลย”

.

ประโยคดังกล่าวทำให้บรูซและโอน่าเกิดความรู้สึกเป็นกังวลใจ พวกเขารู้ดีว่าบ้านทั้งหลังของพวกเขาสามารถหายไปในพริบตาด้วยพลังทำลายล้างของพายุที่อาจจะกำลังมาถึง เพื่อความปลอดภัยไม่เป็นการประมาททั้งคู่จึงรีบแยกย้ายกันไปเก็บข้าวของที่จำเป็น โอน่าเร่งมือช่วยพี่ชายของเธอที่ป่วยติดเตียงแล้วพาเขาล่วงหน้าไปยังที่หลบภัยก่อน... ส่วนบรูซหลังจากที่เก็บข้าวของที่จำเป็นเพียงแค่ไม่กี่ชิ้นก็เร่งออกตามหาน้องแมว 4 ตัวและน้องหมาอีก 2 ตัวที่พวกเขาเลี้ยงเอาไว้...

.

บรูซรวบรวมสมาชิกสี่ขาจนเกือบครบขาดเพียงแค่ “เลดี้บั๊ก”(Ladybug) น้องแมวเหมียวที่ได้หายตัวไป  นอกจากนั้นบรูซยังต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่เมื่อ “ดาช่า”(Dasha) น้องหมาที่น่ารักของเขากลับดื้อดึงไม่ยอมออกจากบ้าน... บรูซมีเวลาไม่มากก่อนที่พายุจะมาถึงแต่ดาช่ายังคงยืนยันที่จะไม่ทิ้งบ้านเพื่อติดตามคุณพ่อของเธอไป สถานการณ์เริ่มแย่ลงพายุใกล้เข้ามาทุกทีและบีบบังคับทำให้บรูซต้องตัดสินใจออกจากบ้านโดยยอมปล่อยให้ลูกๆ สี่ขาอีกสองชีวิตอยู่ที่นั่น...

.

“ดาช่ารับรู้ได้ว่ามีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติกำลังจะเกิดขึ้น ด้วยความหวาดกลัวเธอจึงเดินเข้าไปหลบที่ห้องครัวจากนั้นก็ไม่ยอมลุกไปไหนเลย บรูซไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดาช่าถึงจะยอมตามออกมาด้วย สุดท้ายเขาต้องจำใจทิ้งเธอไว้ ในวินาทีนั้นพายุได้เคลื่อนตัวมาถึงแล้ว และเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่เราไปถึงที่หลบภัย เราแทบจะปิดประตูที่หลบภัยไม่ได้เพราะในตอนนั้นลมแรงมากๆ ”

จูลี่กล่าว

.

พายุทอร์นาโดทำลายหลังคาบ้านของครอบครัวดันแลบออกเป็นชิ้นๆ ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านก็กระจัดกระจายไปทั่วตามแรงลม ตอนที่ครอบครัวดันแลบกลับออกมาจากที่หลบภัยก็มืดมากแล้ว แต่ด้วยความเป็นห่วงพวกเขาได้ขับรถย้อนกลับมาที่บ้านอีกครั้ง ทว่าก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก เพราะสภาพบ้านแย่กว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้และเป็นเรื่องที่อันตรายมากหากจะเสี่ยงเข้าไปในบ้านตอนนั้น พวกเขาจึงต้องขับรถออกไปหาที่พักเพื่อนอนเอาแรงสำหรับคืนค่ำคืนนั้น ก่อนจะตื่นขึ้นมาเผชิญหน้ากับฝันร้ายอีกครั้งในเช้าของวันพรุ่งนี้...

Julie Moore

.

รุ่งเช้าครอบครัวดันแลบและเพื่อนบ้านอีกสองถึงสามคนรวมถึงจูลี่ก็ได้เดินทางกลับมาที่บ้านเพื่อสำรวจสภาพบ้านและสิ่งที่ยังพอจะเหลืออยู่  ระหว่างที่พวกเขากำลังเดินสำรวจไปรอบๆ บ้านอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีใบหน้าที่คุ้นเคยโผล่ออกมาจากซากบ้าน เธอคือ “ดาช่า” เธอรีบวิ่งมาหาคุณแม่โอน่าด้วยอาการดีใจสุดๆ

Julie Moore

.

“ดาช่าวิ่งเข้ามาหาโอน่าด้วยความดีใจพรางร้องครางหงิงๆ คล้ายกับกำลังบ่นพึมพำว่า ‘ทำไมปล่อยให้หนูรอนานจัง’ โอน่ากอดเธอเอาไว้ ก่อนจะกระซิบไปที่หูของดาช่าว่า ‘แม่ขอโทษนะ...แม่อยู่ที่นี่แล้ว’ ”

จูลี่กล่าว

.

Julie Moore

.

จูลี่รู้สึกประทับใจกับภาพที่กำลังเกิดขึ้นอยู่เบื้องหน้าอย่างที่สุด โอน่าผู้เป็นแม่คุกเข่าลงกับพื้นตรงหน้าลูกสาวสี่ขาดาช่าในสภาพที่เนื้อตัวกำลังมอมแมมอยู่บริเวณบ้านที่เหลือเพียงซาก   โอน่าโอบกอดสัมผัสลูกสาวของเธออย่างอ่อนโยนพร้อมกับก้มลงไปประทับจูบบนหน้าผากลูกสาวเพื่อบอกรักอีกครั้ง ส่วนดาช่าเธอยกตัวขึ้นนั่งสองขาโอบกอดคุณแม่ด้วยสองขาหน้า ก้มหัวลงหลับตาพริ้มทำหูลู่ด้วยท่าทางเด็กดีให้โอน่าประทับจูบอย่างว่าง่าย ดาช่าโอบรับความรักจากคุณแม่ของเธอด้วยความโหยหา ทั้งคู่กำลังปลอบโยนซึ่งกันและกันในช่วงเวลาที่ย่ำแย่  บ้านได้พังทลายลงแต่หัวใจของพวกเขายังคงเต้นอยู่และการทีทั้งคู่ได้มีชีวิตอยู่ มีโอกาสกลับมาพบหน้าและโอบกอดกันได้อีกครั้งเป็นเสมือนสิ่งที่ดีที่สุดหลังต้องเผชิญหน้ากับพายุทอร์นาโดที่เลวร้าย จูลี่แทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เมื่อได้เห็นทั้งคู่แสดงความรักต่อกัน  เธอหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาบันทึกภาพเหตุการณ์ช่วงเวลาที่น่าประทับใจนี้เอาไว้ด้วย

.

“โอน่าโอบกอดและปลอบดาช่าด้วยสัมผัสที่อบอุ่น ส่วนดาช่าเองก็ตอบกลับความห่วงใยของคุณแม่ด้วยสัมผัสที่อบอุ่นเช่นกัน”

จูลี่กล่าว

.

Julie Moore

.

บรูซและโอน่ารู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้กลับมาพบกับดาช่าอีกครั้ง  และยิ่งดีใจเมื่อรู้ว่าเธอยังคงปลอดภัยดี อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงกังวลใจอยู่มากเพราะยังหาตัวเลดี้บั๊กน้องแมวเหมียวสมาชิกสี่ขาของครอบครัวไม่เจอ 

.

แต่หลังจากนั้นเพียงไม่นาน “ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง” เลดี้บั๊กเดินออกมาจากซากบ้านเพื่อพบหน้าครอบครัวของเธอ...

.

“ตัวเธอเปียกและหนาวสั่น โอน่าปัดเศษหินที่ติดอยู่ตามตัวของเธอออก ก่อนที่จะอุ้มลูกสาวสี่ขาขึ้นมากอดเอาไว้แนบอกด้วยความดีใจ”

จูลี่กล่าว

.

ดูจากสภาพของบ้านแล้วครอบครัวดันแลบยังมีงานที่จะต้องทำอีกมาก แต่ในวันนี้สิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุขมากที่สุดนั่นก็คือการได้กลับมาพบหน้ากับลูกๆ สี่ขาอีกครั้ง ถึงแม้ว่าพายุทอร์นาโดจะรุนแรงทำลายบ้านที่อบอุ่นของพวกเขาลงจนกลายเป็นซากในช่วงระยะเวลาสั้นๆ  แต่ทว่าพายุทอร์นาโดกลับไม่สามารถทำลายความรักที่บรูซและโอน่ามอบให้ลูกๆ สี่ขาได้เลย  ความรักจะทำให้หัวใจของพวกเขาเข้มแข็งและผ่านวิกฤติที่เกิดขึ้นไปได้แน่นอน บรูซและโอน่าจะไม่โดดเดี่ยวเพราะมีเหล่าตัวเล็กสี่ขาอยู่ข้างๆ คอยเป็นกำลังใจที่ดีให้เสมอ...

Julie Moore

.

Julie Moore

 

.

.

 

.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip 

..................................................................
บทความโดย dogsclip.com

“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”

.

.