เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่เมืองโนโว โอริซอนเท กรุงเซาเปาโล ประเทศบราซิล กำลังวิ่งออกกำลังกายในตอนเช้าทำให้เขาได้พบกับ “จูลี่” (July) น้องหมาของเพื่อนบ้านที่กำลังทำท่าทางแปลกๆ อยู่ที่บริเวณกองขยะ ในตอนแรกเขาคิดว่าจูลี่คงคุ้ยเขี่ยหาเศษอาหารเล่นซนตามประสาจึงไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากนักก่อนที่จะสับขาวิ่งต่อ... เวลาผ่านไปนานสักพักเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รู้สึกเหนื่อยจนเหงื่อท่วมตัว เขาก็วิ่งย้อนกลับบ้านโดยใช้เส้นทางเดิม ในระหว่างนั้นเองเขาก็ได้พบกับน้องหมาจูลี่ที่จุดเดิมอีกครั้ง
.
แต่ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตเห็นความผิดปกติ จูลี่กำลังคาบบางอย่างออกมาจากกองขยะ ในตอนแรกเขาคิดว่าคงจะเป็นซากสัตว์ที่ตายแล้ว แต่ทว่าหลังจากที่เขาเดินเข้าไปเพ่งมองใกล้ๆ ด้วยความสงสัยก็พบว่าไม่ใช่อย่างที่คิดเอาไว้! แท้จริงแล้วจูลี่กำลังคาบลูกหมาตัวน้อยที่ยังมีชีวิตและดูเหมือนว่าเพิ่งจะลืมตาดูโลกได้ไม่นานด้วย

.
เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า อาจจะมีใครบางคนที่ตั้งใจเอาลูกหมาตัวน้อยมาทิ้งไว้ในกองขยะและคงไม่หวังให้เขามีชีวิตรอดแน่ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินสำรวจไปรอบๆ บริเวณกองขยะ แต่ทว่าเขาก็ไม่พบว่าน้องหมาจรจัดตัวไหนที่จะมีลักษณะแม่ลูกอ่อนหรือกำลังเลี้ยงลูกน้อยอยู่เลย
.
นับว่าเป็นความโชคดีท่ามกลางความโชคร้ายเมื่อลูกหมาตัวน้อยที่ไร้ค่าสำหรับใครบางคนต้องถูกทิ้งอย่างไร้หัวใจได้พบกับจูลี่น้องหมาแสนรู้ ผู้มีน้ำใจ ยื่นอุ้งเท้าน้อยๆ และปากของเธอเข้าไปคุ้ยเขี่ยกองขยะที่สกปกก่อนที่จะเจอตัวแล้วช่วยคาบออกมา... จังหวะก็ช่างประจวบเหมาะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังวิ่งผ่านมาพอดี... ลูกหมาตัวน้อยจึงได้รับความช่วยเหลือต่อไป...

.
ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อไปหา “มาร์โค่ แอนโตนิโอ โรดริเกส” (Marco Antonio Rodrigues) เจ้าหน้าที่ของศูนย์พักพิงสัตว์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ เพื่อขอความช่วยเหลือเร่งส่งเจ้าหน้าที่มารับลูกหมาตัวน้อยไปดูแล ทันทีที่มาร์โค่ได้รับทราบเรื่องราวจากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำให้เขารู้สึกตกใจ มาร์โค่ไม่คิดว่าจะมีใครใจร้ายสามารถลงมือทำในสิ่งที่โหดร้ายกับลูกหมาแรกเกิดได้มากขนาดนี้ ก่อนจะรับเรื่องและเร่งลงพื้นที่...
.
“มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก...ผมไม่คิดเลยว่าจะมีมนุษย์คนไหนสามารถทำเรื่องแบบนี้กำลูกหมาตัวน้อยที่เพิ่งจะลืมตาดูโลกได้ ”
มาร์โค่กล่าว
.
ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามเข้าไปเจรจากับจูลี่เพื่ออ้อนขอให้เธอคายลูกหมาตัวน้อยออกมาจากปาก แต่ทว่าจูลี่กลับไม่ยอมง่ายๆ คล้ายกำลังคิดว่าลูกหมาตัวน้อยเป็นลูกบุญธรรมที่เธอต้องดูแลยังไงอย่างงั้น จูลี่มีอาการหวงและพยายามปกป้องลูกน้อยไม่ต้องการให้ใครมาพรากพวกเขาไปจากกัน จูลี่มีสัญชาตญาณความเป็นแม่สูงมาก...
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใจจูลี่จึงไม่ได้พยายามเข้าไปประชิดตัวจนทำให้เธอรู้สึกถูกคุกคามหวังยื้อแย่งหรือบังคับให้เธอคายลูกหมาออกมาจากปากทันทีทันใด จูลี่คาบลูกหมาด้วยความระมัดระวังไม่มีทีท่าว่าจะทำร้าย เธอมั่นใจว่าลูกหมาจะปลอดภัยมากกว่าหากอยู่ในความดูแลของเธอ
.
“จูลี่ได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือการช่วยชีวิตลูกหมาตัวน้อยเอาไว้”
มาร์โค่กล่าว
.

.
ถึงแม้ว่าจูลี่จะพยายามแสดงออกว่าต้องการที่จะเลี้ยงลูกหมาตัวน้อยมากแค่ไหน แต่ทว่าก็ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมนัก... จูลี่ไม่มีน้ำนมให้ลูกหมาตัวน้อยกิน มาร์โค่จึงต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องพาลูกหมาตัวน้อยไปขอความช่วยเหลือจากแม่หมาที่มีน้ำนมและพร้อมที่จะรับเลี้ยงลูกหมาตัวน้อยผู้น่าสงสารต่อไป
.
เป็นความโชคดีอีกครั้งเมื่อศูนย์พักพิงสัตว์ที่มาร์โค่ประจำอยู่ เพิ่งจะรับ “ลูบี้” (Loubie) น้องหมาแม่ลูกอ่อนเข้ามาดูแลได้ไม่นาน ดังนั้นลูบี้จึงเหมาะที่จะเป็นแม่เลี้ยงจำเป็นให้กับลูกหมาตัวน้อยมากที่สุด

.
“น้องหมาตัวหนึ่งได้พบลูกหมาในกองขยะและช่วยชีวิตเขาเอาไว้ และอีกตัวก็ได้กลายมาเป็นคุณแม่จำเป็นของลูกหมาตัวน้อยไปแล้วตอนนี้ ลูกหมารอดชีวิตได้เพราะน้องหมาทั้งสองตัวที่เขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มันเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจจริงๆ ”
มาร์โค่กล่าว
.
ภายหลังลูกหมาตัวน้อยได้รับการตรวจสุขภาพจากสัตวแพทย์ประจำศูนย์พักพิงสัตว์ ซึ่งผลตรวจเป็นที่น่าพอใจมาก เมื่อพบว่าลูกหมามีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์และแข็งแรงดี ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย มีเพียงแค่อาการอ่อนแรงอันเกิดจากไม่ได้รับสารอาหารและน้ำอย่างเพียงพอเท่านั้น
.
โชคดีที่ลูบี้มีน้ำนมให้เขากินมากเท่าไหร่ก็ได้จนกว่าเขาจะอิ่ม ภายหลังมาร์โค่ได้ตั้งชื่อให้กับลูกหมาตัวน้อยว่า “แชปลิน” (Chaplin) หลังจากนี้แชปลินจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงสัตว์โดยมีลูบี้รับหน้าที่เป็นแม่เลี้ยง จนกว่าแชปลินจะแข็งแรงและโตพอที่จะสามารถดูแลตัวเองได้มากกว่านี้ เมื่อทุกอย่างพร้อมเจ้าหน้าที่ก็จะประกาศตามหาบ้านหลังใหม่ให้กับเขาต่อไป...

.
“มันช่างเป็นเรื่องที่สวยงามทำให้หัวใจของพวกเราพองโต ตอนนี้ลูกหมาตัวน้อยมีชื่อว่า ‘แชปลิน’ เขาจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากพวกเรา และเมื่อเขาพร้อมและดูแลตัวเองได้ เราก็จะประกาศหาบ้านใหม่ให้กับเขาต่อไป”
มาร์โค่กล่าว
.

.
ท่ามกลางสถานการณ์ความวุ่นวายในสังคมมนุษย์ นี่คงเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวน่าประทับใจที่ทำให้คนรักสัตว์หัวใจพองโตได้มากเลยนะครับ เหล่าน้องหมาพวกเขากำลังเรียนรู้ที่จะเห็นอกเห็นใจกัน ยื่นมือให้ความช่วยเหลือเมื่อพวกเขาสามารถทำได้ พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารักจริงๆ บางทีเรื่องนี้อาจจะช่วยทำให้มนุษย์อย่างเราๆ ได้สติรู้ตัวว่า หากมนุษย์เรามีน้ำใจและเห็นอกเห็นใจกันมากกว่านี้สังคมมนุษย์ก็คงจะน่าอยู่ขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้นะครับ...
.
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.