“แคลร์ ซีเบอร์” (Claire Seeber) สาวสวยผู้รักสัตว์วัย 33 ปี อาศัยอยู่กับ “ณอน” (Sean) สามีและหนุ่มน้อย “แครนสกี” (Kransky) น้องหมาสายพันธุ์ดัชชุนแสนรู้ ในเมืองเพิร์ท รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาเคยผ่านช่วงเวลาที่ต้องประหลาดใจและย่ำแย่ที่สุดเมื่อช่วงวันคริสต์มาสเมื่อพ.ศ.2562 หรือประมาณ 2 ปีก่อนหน้านี้ คริสต์มาสปีนั้นค่อนข้างเหงาสำหรับแคลร์เพราะฌอนไม่ได้อยู่ฉลองคริสต์มาสกับเธอเพราะเขาต้องเดินทางไปทำงานต่างรัฐ นั่นจึงทำให้แคลร์ต้องฉลองคริสต์มาสกับแครนสกีกันแค่สองคน วันนั้นแคลร์ได้พาแครนสกีออกไปเดินเล่นนอกบ้านและระหว่างทางก็ได้แวะซื้อของขวัญเซอร์ไพร์สเขาด้วย
.
แคลร์ และ ฌอน คู่รักหวานแหวว
.
แครนสกี สี่ขาตัวน้อยแสนรู้ของครอบครัว
.
การเข้ามาเป็นสมาชิกสี่ขาในบ้านแสนอบอุ่นของแคลร์และฌอนกว่า 2 ปีมีความหมายมาก แครนสกีทำให้พวกเขารู้สึกถึงการเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเพราะนับตั้งแต่วันแรกที่แครนสกีก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน เขาก็ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป บ้านที่เคยเงียบเหงาดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาก รวมถึงเรื่องราวดี ๆ อีกหลายอย่างก็ตามมาด้วย กระทั่งวันหนึ่งแคลร์ได้พบว่าแครนสกีไม่ได้เพียงแค่เป็นความสุขก้อนโตของครอบครัวเท่านั้นแต่ทว่าเขามีความสามารถพิเศษสามารถตรวจพบสิ่งผิดปกติในร่างกายมนุษย์และช่วยชีวิตเธอเอาไว้!
.
.
ขณะที่แคลร์กำลังนอนคุยโทรศัพท์กับคุณแม่ของเธออยู่บนโซฟาหลังจากวันคริสต์มาสในปีนั้นผ่านไปได้ไม่กี่วัน แครนสกีที่นอนอยู่ใกล้ ๆ ก็มีพฤติกรรมแปลกจนน่าสงสัย แครนสกีกระโดดขึ้นไปบนโซฟาก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาใช้จมูกน้อย ๆ ของเขาดมไฝบริเวณขาข้างขวาของแคลร์อย่างผิดปกติ จากนั้นก็ใช้ปลายจมูกพยายามดุนตรงตำแหน่งเดิมซ้ำ ๆ จนแคลร์เริ่มรู้สึกจั๊กจี้จนหลุดหัวเราะออกมาไม่หยุด ซึ่งนั่นทำให้คุณแม่ของแคลร์ที่กำลังถือสายคุยอยู่เกิดสงสัยและเอ่ยปากถามแคลร์ว่า "หัวเราะอะไรกัน"
.
.
แคลร์อธิบายพฤติกรรมแปลก ๆ ของแครนสกีให้คุณแม่ฟังด้วยอารมณ์ขันและติดตลก แต่ทว่าคุณแม่ของเธอกลับไม่ได้คิดว่านั่นเป็นเรื่องตลก เธอตั้งข้อสงสัยด้วยความเป็นห่วงและบอกข้อมูลกับแคลร์ลูกสาวสุดรักว่า...
.
“เคยมีงานวิจัยด้วยนะว่า น้องหมาสามารถตรวจจับความผิดปกติที่เกิดขึ้นในร่างกายของมนุษย์ได้ ลูกควรไปตรวจสุขภาพบ้างนะ”
คุณแม่ของแคลร์กล่าวด้วยความเป็นห่วง
.
หลังจากที่คุณแม่พูดจบแคลร์ก็ยังคงอารมณ์ดีไม่ได้เก็บไปคิดมากและเข้าใจว่าคุณแม่ก็เพียงแค่เป็นห่วงเธอมากเกินไปก็เท่านั้น แคลร์จึงชะล่าใจไม่ได้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพตามที่คุณแม่เตือน
.
ด้วยความเป็นห่วงและกังวลใจคุณแม่ของแคลร์ก็ยังคงกลับมาไถ่ถามแคลร์อยู่บ่อยครั้งเมื่อมีโอกาสเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพ นั่นจึงทำให้แคลร์ใจอ่อนยอมไปตรวจสุขภาพตามที่คุณแม่ต้องการด้วยหวังว่าจะช่วยทำให้คุณแม่สบายใจขึ้น
.
“ฉันไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ทันทีที่คุณหมอเห็นไฝที่บริเวณขาข้างขวาของฉัน เขาก็แนะนำให้ตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ”
แคลร์กล่าว
.
สองสามวันถัดมาขณะที่แคลร์กำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นกับแครนสกี เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลที่เธอเคยไปตรวจร่างกายก็โทรมาแจ้งผลตรวจชิ้นเนื้อที่เคยตัดออกไปตรวจว่า แพทย์ได้ตรวจพบว่าชิ้นเนื้อดังกล่าวเป็น “มะเร็ง”
.
“หลังจากวางสายฉันทรุดลงไปกองกับพื้นและร้องไห้หนักมาก ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง แต่ก็ยังโชคดีที่มันเพิ่งอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น”
แคลร์กล่าว
.
หลังจากนั้นแคลร์ก็ได้เข้ารับการรักษาทันที แพทย์ได้ทำการผ่าตัดนำไฝและเนื้อเยื่อรอบ ๆ ออกทั้งหมดเพื่อกำจัดมะเร็ง ซึ่งตลอดระยะเวลาการรักษาแคลร์ได้รับกำลังใจมากมายจากฌอนและแครนสกีน้องหมาตัวน้อยฮีโร่ของเธอ
.
.
หลังการผ่าตัดแคลร์ยังต้องเข้ารับการตรวจร่างกายเพื่อหาเชื้อมะเร็งที่ผิวหนังซ้ำในทุก 3 เดือนเป็นเวลาอีกนานหลายปีเพื่อให้แน่ใจว่ามะเร็งร้ายจะไม่กลับมาคุกคามชีวิตของเธออีก โชคดีที่การรักษาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนั่นจึงทำให้แคลร์ไม่จำเป็นต้องรับเคมีบำบัดในการรักษา
.
.
“นี่ก็ผ่านมาเกือบสองปีแล้ว, ตอนนั้นมันเป็นช่วงเวลาที่ฉันกลัวมากที่สุดในชีวิตเลยล่ะ ฉันพยายามจะไม่คิดถึงมันอีก ฉันมักจะคิดว่าหากแครนสกีไม่พยายามแจ้งเตือนด้วยการดมที่ไฝจนฉันจั๊กจี้ในวันนั้น อาการของฉันก็คงจะแย่กว่านี้มากแน่ ๆ
.
ตอนนี้ฉันกำลังแบ่งปันเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพื่อรณรงค์ให้คนทั่วไปหันมาตรวจหามะเร็งผิวหนังกันมากขึ้นไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเทวาดาตัวน้อยอย่างแครนสกีคอยแจ้งเตือนและชี้ให้เห็นความผิดปกติที่อยู่ภายในร่างกาย ดังนั้นเราควรเริ่มต้นสังเกตตัวเองเพื่อให้สามารถตรวจพบได้เร็วและรักษาได้ทันเวลา”
แคลร์กล่าวในรายการ Take 5 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ.2564 ที่ผ่านมา
.
แคลร์โชคดีที่มีแครนสกีอยู่ข้าง ๆ เขาเป็นฮีโร่ผู้ช่วยชีวิตที่น่าทึ่งอย่างแท้จริง ๆ
.
.
เห็นได้ชัดว่าเหล่าน้องหมามีพลังวิเศษมากมายรอให้มนุษย์ค้นพบและที่ผ่านมาดูเหมือนว่าพวกเขาก็พยายามใช้พลังวิเศษทั้งหมดที่มีเพื่อดูแลคนที่เขารักนี่แสดงชัดว่านอกจากน้องหมาจะเป็นเพื่อนที่แสนดีแล้วพวกเขายังเป็นเทพผู้พิทักษ์ของบรรดานายรักด้วย ทั้งหมดนี้คงเป็นเหตุผลมากพอที่จะทำให้บรรดานายรักหันมารักและดูแลเอาใจใส่เหล่าน้องหมาให้ดีที่สุดมากเท่าหรือมากกว่าที่พวกเขาดูแลเรานะครับ
.
อย่างที่แคลร์กล่าวไม่ใช่ทุกคนที่จะมีน้องหมาแสนรู้อย่างแครนสกีอยู่ข้าง ๆ ดังนั้นทุกคนต้องหมั่นตรวจสอบและดูแลสุขภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอนะครับ หากน้องหมาที่บ้านมีอาการแปลก ๆ คล้ายกำลังพยายามจะแจ้งเตือนบางอย่างบนร่างกายก็อย่าได้ละเลย
.
ขอให้ทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงนะครับ ^^
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.
