"บรูตัส" (Brutus) น้องหมาสายพันธุ์บลูมาสทิฟฟ์ ปัจจุบันเขาเป็นสมาชิกในครอบครัวของ "มิคเคลเล็ค" (Michalek) และสามี บ้านของพวกเขาตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มิคเคลเล็ครับอุปการะบรูตัสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวในฐานะลูกชายคนแรกเมื่อปี 2558 เขาเป็นสุดที่รักของบ้านนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา มิคเคลเล็คคุณแม่ของบรูตัสเล่าว่า ลูกชายสี่ขาของเธอมีของเล่นสุดรักสุดหวงอยู่หนึ่งชิ้นที่เขามักจะคาบเอาไว้ในปากเสมอและจะไม่ยอมปล่อยให้ใครมาแตะต้องหรือยุ่งวุ่นวายกับของรักชิ้นนั้นได้ง่ายๆ ทุกคนในบ้านรู้ดี...

.

.
กระทั่งวันหนึ่งมิคเคลเล็คได้รับข่าวที่น่ายินดีว่าเธอได้ตั้งท้องลูกชายตัวน้อยพยานรักที่กำลังจะเข้ามาเติมเต็มให้ครอบครัวของเธอนั้นสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น หลายเดือนต่อมาการรอคอยก็สิ้นสุดลง "เคย์เดน" (Kayden) เด็กชายตัวน้อยสุขภาพแข็งแรง หน้าตาน่ารักก็ได้ลืมตาดูโลกมาพบหน้ากับคุณพ่อคุณแม่และพี่ชายสี่ขาที่เฝ้ารอคอยต้อนรับเขามาตลอด...
.
ถึงแม้ว่าในบ้านจะมีสมาชิกสี่ขาตัวโตอย่างบรูตัสอยู่ด้วย แต่สำหรับมิคเคลเล็คและสามีสิ่งนี้กลับไม่ได้เป็นเรื่องที่ทำให้ทั้งคู่ต้องรู้สึกกังวลใจอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความปลอดภัยหรือความสะอาด พวกเขาดูแลและรับผิดชอบกับเรื่องนี้ได้ที่สำคัญพวกเขารู้จักบรูตัสดีพอ... ที่ผ่านมาทุกครั้งที่บรูตัสได้ยินเสียงเด็กๆ เล่นซนกันอยู่ข้างนอกบ้าน เขาจะออกอาการตื่นเต้นและอยากจะออกไปเล่นกับเด็กๆ ทุกครั้ง พวกเขาจึงยิ่งมั่นใจว่าเด็กชายตัวโตจะเป็นพี่ชายที่ดีของเคย์เดนได้และบ้านหลังนี้จะกลายเป็นบ้านที่อบอุ่นขึ้นปราศจากปัญหาในการอยู่ร่วมกันอย่างแน่นอน...

.

.
มิคเคลเล็คยังบอกอีกว่าบรูตัสเป็นน้องหมาที่เฉลียวฉลาดมาก เขาสามารถรับรู้ว่าเธอกำลังตั้งท้อง ได้ก่อนที่เธอจะรู้ตัวซะอีก ในคืนนั้นบรูตัสไม่ยอมกลับเข้ากรงเหมือนอย่างที่เคยเป็น แต่เขากลับเลือกที่จะนอนอยู่ข้างๆ มิคเคลเล็คคุณแม่ของเขาแทน ในตอนนั้นมิคเคลเล็คคิดว่าลูกชายบรูตัสคงแค่อยากจะอ้อนจึงทำตัวดื้อก็เท่านั้น... แต่หลังจากที่เธอรู้ตัวว่ากำลังตั้งท้องก็เข้าใจว่า นั้นเป็นพฤติกรรมอย่างหนึ่งเพื่อแสดงออกถึงความรัก ความห่วงใยของบรูตัสที่พยายามปกป้องคุณแม่และน้องชายของเขา

.

.
วินาทีแรกที่บรูตัสได้พบกับเคย์เดน เขาก็มีอาการตื่นเต้นและดีใจมากๆ ที่ได้เห็นมนุษย์ตัวน้อยสมาชิกคนใหม่ของครอบครัว บรูตัสสถานะเปลี่ยนไปกลายเป็นพี่ชายคนโตของบ้าน นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาบรูตัสก็ไม่ยอมห่างจากเคย์เดนเลย เมื่อใดก็ตามที่บรูตัสได้ยินเสียงร้องไห้ของเคย์เดน เขาก็จะรีบวิ่งเข้าไปหาน้องชายทันทีเพื่อทำบางสิ่งที่น่าประทับใจสุดๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดแปลกไปจากธรรมชาติของน้องหมาขี้หวงปกติทั่วๆ ไป บรูตัสจะวิ่งไปคาบของเล่นสุดรักสุดหวงมาวางไว้ข้างๆ น้องชายตัวน้อยหวังปลอบโยนและกล่อมเขาให้หยุดร้องไห้ บรูตัสจะมองหน้าน้องชาย ทำหูลู่และนัยน์ตาเศร้าคล้ายเข้าใจรับรู้ความรู้สึกของน้องชาย เขาเป็นน้องหมาตัวโตแต่ทว่าหัวใจของเขาอ่อนโยนเหลือเกิน...
.
ปกติแล้วหากน้องหมาแสดงพฤติกรรมปกป้องของรักของหวงอย่าได้คิดที่จะเข้าไปแย่งหรือแกล้งแหย่ของของเขาล่ะ พวกเขาจะจริงจังพร้อมปกป้องของรักสุดกำลังเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นชามข้าว อาหารว่าง ของเล่น ที่นอน หรือแม้แต่คนที่เขารัก แต่สำหรับบรูตัสเขากลับยินดียอมยกของรักสุดหวงให้กับน้องหมาชายได้อย่างไม่ลังเลเลย... นั้นแสดงว่าสิ่งที่บรูตัสรักมากที่สุดนั้นกลายเป็นน้องชายเคย์เดนไปแล้วล่ะ...
.
แน่นอนว่ามิคเคลเล็คและสามีในฐานะคุณแม่คุณพ่อแล้ว การได้เห็นพี่น้องรักกันนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ทั้งคู่มีความสุขมากที่สุดเลยล่ะ บ่อยครั้งที่มิคเคลเล็คจะอนุญาตให้พี่ชายสี่ขาตัวโตเข้ามานอนใกล้ๆ กับน้องชายเคย์เดน มันเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่พวกเขาได้อยู่ใกล้ชิดกันเพื่อสร้างสายใยความสัมพันธ์ที่อบอุ่นให้ทุกคนรับรู้ถึงการเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว...

.

.
น่าประทับใจจริงๆ สำหรับความผูกพันที่น่ารักของครอบครัวนี้ แต่อย่างไรก็ตามด็อกคลิปมองว่าการที่น้องหมาตัวโตจะใช้ชีวิตอยู่กับเด็กทารกตัวน้อยได้นั้น ผู้ปกครองต้องมั่นใจด้วยว่าได้เลี้ยงดูน้องหมามาด้วยความรัก เอาใจใส่และอ่อนโยน สนิทกันจนรู้จักนิสัยของพวกเขาได้ดีจริงๆ ที่สำคัญผู้ปกครองจะต้องสามารถควบคุมน้องหมาให้เป็นเด็กดีเชื่อฟังคำสั่งและสามารถปฏิบัติตามได้อย่างทันทีทันใดด้วยนะครับ
.
เรื่องของความสะอาดก็ต้องดูแลมากเป็นพิเศษด้วย เนื่องจากเด็กอายุเพียงแค่ไม่กี่เดือนยังมีภูมิคุ้มกันโรคต่ำ หากเด็กน้อยไม่แข็งแรงมากพอก็อาจจะเจ็บป่วยได้ เรื่องนี้ต้องป้องกันไว้ดีกว่าตามแก้ปัญหาทีหลังนะครับ
.
อย่างไรก็ตามด็อกคลิปเชื่อว่าการเลี้ยงน้องหมาตัวโตกับเด็กเล็กนั้นทำได้แต่ต้องมีความเข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือ มีความรับผิดชอบที่มากพอ ทุกครั้งที่น้องหมาอยู่กับเด็กน้อยผู้ปกครองก็ต้องอยู่ด้วยทุกครั้งไม่ควรปล่อยให้พวกเขาอยู่ตามลำพัง เพราะทั้งนี้อาจจะเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันได้นะครับ
.
การที่ครอบครัวหนึ่งจะต้องมีลูกน้อย แต่กลับเลือกพาหมาไปปล่อยทิ้งตามข้างถนน เพราะเกรงว่าลูกน้อยจะไม่ปลอดภัย กลัวเรื่องความสะอาด อันนี้ไม่ดีเลยไม่เอาไม่ควรทำนะครับ รับพวกเขามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวแล้ว เมื่อเจอปัญหาก็ต้องแก้และร่วมรับมือสู้ปัญหาไปด้วยกันนะครับ อย่าเอาปัญหาส่วนตัวในครอบครัวไปสร้างปัญหาให้กับสังคมเป็นอีกหนึ่งต้นเหตุน้องหมาจรจัดเลยนะครับ
.
หากเพื่อนๆ ชาวด็อกคลิป มีประสบการณ์พบเจอเรื่องราวน่ารักๆ เกี่ยวกับน้องหมาที่ทำให้เราอมยิ้มตาม หรือซาบซึ้งใจ อย่าลืมแวะมาเล่าและแบ่งปันให้เพื่อนๆ ชาวด็อกคลิปให้ฟังกันบ้างนะครับ ผ่านคอมเมนต์ใต้โพสต์นี้หรือในกลุ่มด็อกคลิปวิลเลจ (Dog's Clip Village) ก็ได้นะครับ มาเป็นชาวด็อกคลิปวิลเลจ มาเป็นครอบครัวเดียวกันนะครับ
.
ขอบคุณข้อมูลจาก The Dodo, Bonnie Michalek
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.