“เด็กซ์เตอร์” (Dexter) เป็นน้องหมาน่ารักและนิสัยดี หนึ่งในสมาชิกคนพิเศษของครอบครัว “เฮนสัน” (Henson) เขาถูกรักและได้รับความใจใส่จากครอบครัวอย่างดีเช่นลูกคนเล็กของบ้าน แต่ทว่าความแสนดีของเด็กซ์เตอร์ที่ถูกการันตรีจากครอบครัวก็ไม่ได้ทำให้สถานะของเขาเปลี่ยนไปเมื่อก้าวเท้าออกจากบ้าน เด็กซ์เตอร์ยังคงเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องได้รับการควบคุมเป็นพิเศษและมีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตร่วมกับสังคมมนุษย์อีกมากตามกฎหมาย ซึ่งนั่นรวมไปถึงข้อจำกัดหลายอย่างในการเดินทางไปท่องเที่ยวในลาสเวกัสเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ตามที่ครอบครัวได้วางแผนเอาไว้ด้วย เด็กซ์เตอร์จึงอดไปเที่ยวกับครอบครัว “เจเรมี่ เฮนสัน” (Jeremy Henson) คุณพ่อของเด็กซ์เตอร์จำเป็นต้องพาเขาไปฝากไว้ที่ร้านรับฝากเลี้ยงน้องหมาใกล้บ้านแทน
.

.
เมื่อวันเดินทางมาถึงเด็กซ์เตอร์ก็ถูกพาไปที่ร้านรับฝากเลี้ยงก่อนครอบครัวจะออกเดินทางท่องเที่ยวตามที่ได้วางแผนเอาไว้ แต่ทว่าเพียงแค่คืนแรกที่เด็กซ์เตอร์้องนอนในคอกเลี้ยงร่วมกับเพื่อนน้องหมาอีกหลายตัว กลับทำให้เขารู้สึกคิดถึงบ้านจนทนไม่ไหว ก่อนจะเริ่มมองหาทางหนีทีไล่และเฝ้ารอโอกาสเหมาะเพื่อแอบย่องหนีออกจากร้านรับฝากเลี้ยงไปอย่างเงียบ ๆ ซึ่งเขาก็ทำสำเร็จ! หลังจากที่ได้รับอิสระเด็กซ์เตอร์ก็ไม่รอช้าเดินเท้าตรงดิ่งกลับไปที่บ้านทันที สิ่งที่เด็กซ์เตอร์ตัดสินใจทำดูเหมือนว่าเขาเข้าใจผิดคิดว่านายรักลืมมารับเขากลับบ้านเท่านั้น
.
“เรารับเด็กซ์เตอร์มาและตั้งใจฝึกให้เขาเป็นน้องหมาเฝ้าบ้านระหว่างที่ภรรยาของผมต้องอยู่บ้านลำพัง ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่ได้ดีมากด้วยนะ นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงอยากจะกลับบ้าน”
เจเรมีกล่าว
.
ในคืนนั้นเด็กซ์เตอร์เดินเท้าเป็นระยะทางไกลกว่า 3.2 กิโลเมตรจากร้านรับฝากเลี้ยงเพื่อเดินลุยเดี่ยวกลับบ้าน ฟังดูง่ายแต่ความจริงไม่ใช่เลยเพราะเขาต้องเอาชนะอุปสรรคใหญ่อย่างรั้วร้านรับฝากเลี้ยงที่มีความสูงมากกว่า 1.8 เมตรที่ขังเขาเอาไว้ ก่อนที่จะต้องเดินฝ่าผู้คนในเมือง ตรอกซอยที่หน้าตาคล้าย ๆ กัน อันตรายจากรถที่สัญจรบนถนนและสารพัดสิ่งล่อใจอีกหลายอย่างระหว่างทางเดินกลับบ้าน แต่เด็กซ์เตอร์ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันไม่ยากเกินกว่าความสามารถของน้องหมานักเฝ้าบ้านที่เฉลี่ยวฉลาด

.
การลุยเดี่ยวเดินเท้ากลับบ้านไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเด็กซ์เตอร์ เขามีเป้าหมายและแผนที่อยู่ในหัวชัดเจนจึงรู้ดีว่าควรต้องทำอะไรอย่างไรเมื่อไหร่ หลังจากนั้นไม่นานเด็กซ์เตอร์ก็มายืนอยู่หน้าบ้านพร้อมกับความงงงวย เมื่อบ้านของเขาเงียบฉี่ไม่มีแสงไฟส่องสว่างอย่างเคย แน่นอนมันต้องเป็นแบบนั้นเพราะนายรักของเขาไม่อยู่บ้านและกำลังนอนพักผ่อนอยู่บนเดียงนุ่ม ๆ ในโรงแรมหรูที่ลาสเวกัส ซึ่งห่างจากบ้านของพวกเขาไปประมาณ 1.6 พันกิโลเมตร! แต่สำหรับเด็กซ์เตอร์แล้วเขาไม่รู้!
.
ด้วยเข้าใจว่านายรักคงจะกำลังหลับปุ๋ยอยู่ในบ้าน เด็กซ์เตอร์จึงความพยายามหาวิธีส่งสัณญาณให้นายรักรู้ตัวว่าเขากลับมาถึงบ้านแล้ว โดยยืนสองขาแล้วใช้ขาหน้ากดกริ่งหน้าประตูบ้านย้ำ ๆ รัว ๆ แบบไม่เกรงใจเพื่อนบ้าน เพื่อให้นายรักตื่นขึ้นมาเปิดประตูให้เขาเข้าบ้าน
.
เป็นความโชคดีของเพื่อนบ้านเมื่อไม่ต้องทนเสียงกริ่งนานเกินไป เมื่อที่บริเวณหน้าบ้านของครอบครัวเฮนสันมีกล้องวงจรปิดที่มีระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวติดตั้งไว้ทันทีที่น้องหมาเดินผ่านหน้ากล้องระบบก็ส่งข้อความแจ้งเตือนไปยังสมาร์ตโฟนของคุณพ่อเจเรมีให้ทราบ

.
เจเรมีรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้เห็นข้อความแจ้งเตือนจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้าน แต่สิ่งที่ทำให้เขาถึงกลับสะดุ้งโหยงคือตอนที่เปิดข้อความดูแล้วพบเด็กซ์เตอร์กำลังกระโดดด่องแด่งกดกริ่งที่หน้าบ้านกลางดึก! ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้นดึกแบบนี้เด็กซ์เตอร์ควรนอนอยู่บนเบาะนุ่ม ๆ ในร้านรับฝากเลี้ยง!
.
ทันทีที่สังเกตเห็นเด็กซ์เตอร์ดูไม่ค่อยสบายใจหลังจากที่กลับมาแล้วพบว่าไม่มีใครอยู่ที่บ้าน เจเรมีจึงเปิดลำโพงที่ติดอยู่กับตัวกล้องวงจรปิดเพื่อพูดคุยกับเด็กซ์เตอร์ ทันทีที่เด็กซ์เตอร์ได้ยินเสียงก็จำได้ว่าเป็นคุณพ่อของเขาก่อนจะค่อย ๆ สงบลง หลังจากนั้นเจเรมีก็เร่งโทรไปแจ้งให้ร้านรับฝากเลี้ยงทราบว่าน้องหมาของเขาแอบหนีกลับบ้านกลางดึก ในระหว่างที่พนักงานจากร้านรับฝากเลี้ยงเดินทางมารับเด็กซ์เตอร์กลับ เจเรมีก็อยู่เป็นเพื่อนเด็กซ์เตอร์คอยพูดคุยและหยอกเล่นจนกระทั่งพนักงานมารับเด็กซ์เตอร์กลับไปดูแลที่ร้านจนกระทั่งครบกำหนด

.
เจเรมีและภรรยากลับมาถึงบ้านพวกเขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อพบว่าเด็กซ์เตอร์ไม่ได้งอลหรือรู้สึกโกรธที่ถูกทิ้งไว้ที่ร้านรับฝากเลี้ยง เด็กซ์เตอร์ยังคงดีใจที่ได้พบหน้านายรักและแสดงพฤติกรรมที่บ่งบอกว่ายังรักมากเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

.
“กล้องวงจรปิดหน้าบ้านช่วยชีวิตเด็กซ์เตอร์เอาไว้จริง ๆ ถ้าวันนั้นกล้องไม่แจ้งเตือน ผมคงไม่ได้คุยกับเด็กซ์เตอร์และไม่รู้ด้วยว่าเขาจะเดินตระเวนตามหาผมที่ไหนต่อ”
เจเรมีกล่าว
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.