การสูญเสียคนในครอบครัวไปเป็นเหมือนฝันร้าย แต่ทว่าทุกคนต่างรู้ดีว่าฝันร้ายนี้จะเกิดขึ้นกับทุกๆ ครอบครัวแตกต่างกันเพียงแค่ช่วงเวลาเท่านั้น อย่างไรก็ตามความรู้สึกที่เกิดขึ้นกลับไม่ได้ต่างกันเลยไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหน... ทุกคนล้วนต้องเผชิญกับสถานการณ์โศกเศร้าเสียใจ เมื่อหันหน้าไปในสถานที่เดิมๆ กลับไม่พบคนที่เรารัก คนที่เคยเห็นหน้า พูดคุย แบ่งปัน ร่วมทุกข์สุขด้วยกันมาอยู่อย่างเคย จู่ๆ วันหนึ่งเขาก็หายไปกลายเป็นไร้ตัวตนเหลือไว้เพียงความว่างเปล่า คิดถึงก็ไม่ได้เห็นหน้า เสียงที่คุ้นเคยก็ค่อยๆ จางหายไป สัมผัสโอบกอดที่อบอุ่นก็ไม่มีวันจะได้รับอีกอย่างหลีกหนีไม่ได้...
.
หากเรามีอายุมากพอก็คงจะเข้าใจในความจริงของสัจธรรมในข้อนี้ดีขึ้นบ้าง... แต่ทว่ากับเด็กที่เพิ่งเผชิญโลกในวัยเพียงแค่ 13 ปี คงจะเป็นเรื่องยากที่จะผ่านฝันร้ายนี้ไปได้... เช่นเดียวกับเด็กชายคนนี้เขาเพิ่งจะได้รับของขวัญที่อยากได้มาตลอดทั้งชีวิตจากคุณพ่อผ่านมือพี่ชายในวันเกิด แต่ทว่าเด็กชายคนนี้กำลังเผชิญกับความสับสนอย่างหนักภายในจิตใจของเขาเพราะวันที่เขาได้กอดของขวัญสุดรักเป็นวันที่ข้างกายเขาไม่มีคุณพ่อที่รักอยู่แล้ว....
.
“โลแกน คาวาลัสคีส”(Logan Kavaluskis) เด็กชายตัวน้อยวัย 13 ปี อาศัยอยู่กับครอบครัวที่อบอุ่นในเมืองฮัดสันวิลล์ รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา โลแกนเป็นเด็กชายผู้รักสัตว์ตั้งแต่อายุได้เพียงแค่ไม่กี่ขวบและเป็นแบบนั้นมาเสมอกระทั่งปัจจุบัน สิ่งที่เขาเฝ้าใฝ่ฝันถึงมากที่สุดคือการได้ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านกับน้องหมาของเขาเองแต่ความฝันนั้นก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริงๆ สักครั้งถึงแม้ว่าคุณพ่อ คุณแม่ของโลแกนเองก็อยากจะสานฝันลูกรักให้เป็นจริงมากแค่ไหนก็ตาม ทั้งหมดนั้นมีเหตุผลเมื่อ “โจ คาวาลัสคีส”(Joe Kavaluskis) คุณพ่อของโลแกนกำลังเผชิญกับอาการป่วยจากโรคภูมิแพ้ ดังนั้นเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและไม่ทำให้อาการของเขากำเริบหนักขึ้นครอบครัวจึงตัดสินใจที่จะไม่มีสัตว์เลี้ยงเอาไว้ในบ้าน..
.
โจและโลแกนตอนยังเด็ก
.
โจผู้เป็นพ่อรับรู้ถึงความต้องการของลูกชายมาโดยตลอด แต่ทว่าเขาเองก็ไม่สามารถอนุญาตให้โลแกนเลี้ยงน้องหมาได้เนื่องจากอาการของโรคภูมิแพ้ที่เขาเป็นอยู่นั้นค่อนข้างรุนแรง โจจึงทำได้เพียงแค่กอดปลอบใจลูกชาย ตั้งเป้าหมายและให้สัญญากับลูกชายสุดที่รักของเขาว่า "ถ้าวันหนึ่งที่คุณพ่อหายดีแล้ว วันนั้นคุณพ่อจะพาลูกไปรับน้องหมามาเลี้ยงด้วยต้วเอง"
.
แต่น่าเศร้าที่โรคภูมิแพ้ของโจไม่มีทีท่าว่าจะดีหรือทุเลาลง ซ้ำร้ายแพทย์ได้ตรวจร่างกายของเขาและพบว่า เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด Multiple Myeloma ซึ่งนั่นยิ่งจะทำให้อาการของโจย่ำแย่หนักลงไปมากกว่าเดิมอีก... จนเมื่อช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมา โจมีอาการทรุดหนักลงจนจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่นาน...
.
แพทย์ได้ประเมินอาการของโจและแจ้งให้ครอบครัวรวมถึงตัวเขาทราบว่า ตัวโรคได้คุกคามร่างกายมากเกินกว่าที่จะเยียวยาและนั่นทำให้เวลาที่เขาเหลืออยู่บนโลกใบนี้นั้นน้อยลงไปเรื่อยๆ และคาดว่าโจจะมีเวลาเหลืออีกไม่นานนัก ในตอนนั้นหัวใจของโจผู้เป็น "พ่อ" นึกกังวลใจอยู่เพียงสิ่งเดียวนั่นคือลูกชายตัวน้อยโลแกน โจจดจำคำสัญญาที่ให้ไว้ได้เสมอแต่ทว่าโรคร้ายรุมเร้าทำให้เขาไม่สามารถเอาชนะแล้วทำตามสัญญาได้...โจต้องการสานฝันให้กับลูกชายก่อนที่จะไม่มีโอกาสตลอดกาล...
.
“เมลาน่า”(Melanie) ภรรยาของโจ และ “จอน”(Jon) ลูกพี่ลูกน้องของโลแกน รับรู้ความต้องการของโจจึงร่วมกันมือกันวางแผนเซอร้ไพรส์วันเกิดครบรอบ 13 ปีของโลแกนที่กำลังจะมาถึง... พวกเขาตั้งใจจะมอบของขวัญเป็นลูกหมาตัวน้อย สิ่งที่โลแกนต้องการมาตลอดตั้งแต่เล็กๆ ให้กับเขาในวันนั้น... แน่นอนว่าโจรอคอยและอดทนรอวันเกิดของลูกชายตัวน้อยที่จะมาถึงอย่างใจจดใจจ่อ หวังเห็นรอบยิ้มความสุขของลูกชายที่รอคอยมานานหลายปี แต่ทว่าร่างกายที่เสื่อมถอยทรุดลงอย่างหนักและความพยายามในการรักษาก็ไม่สามารถช่วยต่อลมหายใจเพื่อให้โจได้มีโอกาสถึงวันสำคัญที่จะมาถึงได้ น่าเศร้าที่วาระสุดท้ายของโจมาถึงก่อนวันเกิดของลูกชาย... โจจากครอบครัวไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งนั้นเป็นช่วงเวลาก่อนจะถึงวันเกิดของลูกชายโลแกนเพียงแค่ 5 วันเท่านั้น
ครอบครัวของโลแกน
.
ช่วงเวลาที่เศร้าโศกได้เกิดขึ้นกับครอบครัวของโจ หัวใจของพวกเขากำลังบอบซ้ำแต่ทว่าครอบครัวยังมีกันและกันอยู่ในวันที่ขาดคุณพ่อ... ถึงแม้โจจากไปแล้วแต่ความทรงจำและความรักของเขายังคงเดิม เมลาน่าและจอนยังไม่ลืมสิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการจะทำ...
.
จนกระทั่งวันที่ 13 มกราคม 2563 วันคล้ายวันเกิดของโลแกนก็มาถึง จอนได้มอบลูกหมาตัวน้อยสายพันธุ์บอสตัน เทอร์เรียให้กับโลแกน ตามคำสัญญาที่โจผู้เป็นพ่อร้องขอต้องการทำเป็นสิ่งสุดท้าย...
.
ช่วงเวลานั้นจอนไม่ได้อธิบายอะไรให้กับจอนฟัง บอกเพียงว่า "โลแกนอุ้มน้องหมาเอาไว้ก่อนนะ พี่แค่อยากจะถ่ายรูปเฉยๆ " แน่นอนว่าเด็กน้อยหัวใจรักสัตว์และคาดหวังว่าจะได้มีเพื่อนสี่ขาสักตัวในชีวิต ย่อมรู้สึกดีใจเมื่อได้ใกล้ชิดกับน้องหมาตัวน้อยหน้าตาน่ารัก ถึงแม้จะรู้ดีว่าอีกไม่กี่วินาทีหลังจากนี้ก็ต้องคืนน้องหมาให้กับพี่ชายก็ตาม โลแกนยิ้มมีความสุขมากในตอนนั้น..
.
หลังจากนั้นไม่นานนัก จอนก็ได้บอกความจริงกับน้องชายโลแกนว่า น้องหมาตัวนี้คือของขวัญวันเกิดของเขา และคุณพ่อเป็นเจ้าของของขวัญชิ้นนี้ คุณพ่อได้วางแผนเตรียมการทุกอย่างเพื่อทำตามสัญญามอบของขวัญชิ้นพิเศษนี้ให้ก่อนที่คุณพ่อจะจากไป....
.
.
เมื่อได้ฟังสิ่งที่จอนพูดออกมา สีหน้าของโลแกนก็เปลี่ยนไป เขาดูสับสนกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น พร้อมเอ่ยถามจอนพี่ชายว่า
“จริงเหรอ?”
.
.
จอนยืนยันว่าทั้งหมดเป็นความจริง น้องหมาตัวนี้เป็นของขวัญจากคุณพ่อจริงๆ พร้อมกับเอ่ยปากถามน้องชายโลแกนว่า
“ใช่แล้ว พ่ออยากให้นายได้เลี้ยงน้องหมา นายรักเขาไหม? เขาเป็นของนายแล้วนะ”
.
โลแกนไม่ได้พูดอะไร...แต่พยักหน้าเป็นคำตอบแล้วก็ร้องไห้ออกมา... โลแกนก้มหน้ามองใบหน้าเล็กๆ ของน้องหมาตัวน้อยในอ้อมกอด เขาประคองน้องหมาเอาไว้แนบอก พรางใช้มือลูบสัมผัสด้วยความอ่อนโยน ช่วงเวลานั้นมันเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย... โลแกนรู้สึกดีใจมากนี่เป็นช่วงเวลาที่เขารอคอยมาแสนนาน ขณะเดียวกันก็กำลังรู้สึกคิดถึงคุณพ่อของเขามากเช่นเดียวกัน มันคงจะดีไม่น้อยถ้าวันนี้ทุกคนได้อยู่กันพร้อมหน้า...
.
อย่างไรก็ตามน้องหมาตัวน้อยสมาชิกใหม่ก็กำลังจะเข้ามาเติมเต็มเป็นตัวแทนของความรักทั้งหมดที่คุณพ่อโจมอบให้ลูกชายตัวน้อยโลแกน... ทุกครั้งที่เขาได้อยู่ใกล้ๆ น้องหมาก็จะเหมือนกับได้อยู่ใกล้ๆ กับความรักของคุณพ่อที่จะย้ำเตือนเขาเสมอว่า คุณพ่อรักเขามากและจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอไม่จากไปไหน...
.
น้องหมาตัวน้อยยังไร้เดียงสานักเขายังงงๆ กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ทว่าเขาสัมผัสได้ถึงความรักและการเริ่มต้นใหม่ น้องหมามองเลิ่กลั่กด้วยความอยากรู้อยากเห็น...ทักทายครอบครัวใหม่...
.
.
ภายหลังโลแกนได้ตั้งชื่อให้กับน้องหมาตัวน้อยว่า “อินดี้”(Indy)
.
ถึงแม้ว่าวันนี้ไม่มีคุณพ่อโจแล้ว แต่ทว่าอินดี้จะเข้ามาทำให้ความรักของเขายังคงมีชีวิตย้ำเตือนให้ทุกคนในครอบครัวรู้ว่าเขาไม่ได้จากไปไหนและยังรักทุกคนมาก ปรารถนาให้ครอบครัวมีความสุขยิ้มได้ต่อจากนี้ไป ด็อกคลิปเชื่อว่าทุกคนจะรักและดูแลอินดี้ได้เป็นอย่างดี เป็นกำลังใจให้กับครอบครัวคาวาลัสคีสก้าวผ่านช่วงเวลาที่โศกเศร้านี้ไปด้วยความเข้มแข็งนะครับ เวลาจะช่วยเยียวยาทุกอย่างเองครับ
.
รับชมคลิป
.
หากเพื่อนๆ ชาวด็อกคลิป มีประสบการณ์พบเจอเรื่องราวน่ารักๆ เกี่ยวกับน้องหมาที่ทำให้เราอมยิ้มตาม หรือซาบซึ้งใจ อย่าลืมแวะมาเล่าและแบ่งปันให้เพื่อนๆ ชาวด็อกคลิปให้ฟังกันบ้างนะครับ ผ่านคอมเมนต์ใต้โพสต์นี้หรือในกลุ่มด็อกคลิปวิลเลจ (Dog's Clip Village) ก็ได้นะครับ มาเป็นชาวด็อกคลิปวิลเลจ มาเป็นครอบครัวเดียวกันนะครับ
.
ขอบคุณข้อมูลจาก Unilad, T&T Creative Media, FoxNews
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.