เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพของโรงพยาบาลเบารู ในเมืองเบารู ประเทศบราซิลได้รับแจ้งจากพลเมืองดีให้เข้าช่วยเหลือชายคนหนึ่งที่กำลังนอนหมดสติหลังจากที่มีอาการชัก ทันทีที่ได้รับแจ้งเรื่องเจ้าหน้าที่ก็รีบลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือทันที
.
อีกไม่กี่นาทีต่อมาเจ้าหน้าที่ก็เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุและได้พบกับชายผู้โชคร้ายที่กำลังนอนแน่นิ่งหมดสติอยู่บนพื้น เจ้าหน้าที่ไม่รีรอเร่งเข้าไปช่วยปฐมพยาบาลทันที ซึ่งในตอนนั้นเองที่พวกเขาได้พบว่าชายผู้โชคร้ายไม่ได้อยู่ลำพัง
.
“บ็อบ” (Bob) และ “เชียร่า” (Chiara) สองน้องหมาสายพันธุ์สแตฟเฟอร์ดไชร์ บูล เทอร์เรียร์ผสมในอุปการะของชายผู้โชคร้ายกำลังนั่งเฝ้านายรักของพวกเขาอยู่ข้าง ๆ ไม่ยอมห่าง น้องหมาทั้งสองมีท่าทีเป็นห่วงนายรักมาก แต่ทว่าพวกเขากลับไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าวพยายามขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่เลยแม้แต่น้อย ซึ่งน่าจะเป็นไปได้มากว่าน้องหมาทั้งสองตัวรับรู้ได้ถึงความปรารถนาและการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่
.
หลังจากที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ก็เร่งช่วยพาชายผู้โชคร้ายขึ้นรถพยาบาล ซึ่งในระหว่างนั้นน้องหมาทั้งสองตัวก็ยังคงไม่ยอมเดินไปไหน พวกเขาพยายามเดินตามและขอเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ นายรักในทุกนาที สายตาทั้งสองคู่ที่ดูเศร้าและเป็นกังวลใจของน้องหมาทั้งสองตัวเอาแต่จ้องมองนายรักด้วยความเป็นห่วงไม่เลิก แม้นายรักจะถูกพาขึ้นรถพยาบาลไปแล้วแต่น้องหมากลับไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย ทว่ากลับมีสีหน้าที่แย่ลงหนักกว่าเดิมและพยายามแสดงให้เจ้าหน้าที่เห็นว่า "พวกเขาขอติดตามไปดูแลและอยู่เคียงข้างคุณพ่อของพวกเขาด้วย"
.

.
“ด้วยความกังวลเกี่ยวกับชีวิตของผู้ป่วยและน้องหมาทั้งสองตัวที่ต้องอยู่ตามลำพัง ทีมของเราจึงตัดสินใจที่จะไม่ทอดทิ้งน้องหมาเอาไว้ เราพาพวกเขาขึ้นรถพยาบาลมาด้วย ให้เขาได้อยู่ใกล้ ๆ กับนายรักของเขา”
แพทริเชีย โลแลนด้า (Patrícia Iolanda) หัวหน้าหน่วยแพทย์บนรถพยาบาลกล่าว
.

.
หลังจากพาบ็อบและเชียร่าขึ้นรถพยาบาลเจ้าหน้าที่ก็ขับรถมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลทันที เมื่อไปถึงโรงพยาบาลสองน้องหมาก็ช่างแสนรู้ พวกเขาเดินแยกตัวไปรออยู่ที่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าอาคารผู้ป่วยและรออยู่แบบนั้นด้วยอาการสงบเสงี่ยมไม่ได้เดินเข้าไปรบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่หรือผู้ป่วยคนอื่น ๆ ที่เข้ามาใช้บริการเลยแม้แต่น้อย
.

.
บ็อบและเชียร่ารอนายรักของพวกเขาอยู่ที่บริเวณด้านหน้าประตูอาคารผู้ป่วยโรงพยาบาลตลอดทั้งคืน กระทั่งในตอนเช้าพวกเขาก็ได้รับข่าวดีว่านายรักของพวกเขาอาการดีขึ้นมากและแพทย์ก็อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว!

.
ทันทีที่นายรักก้าวเท้าออกจากอาคารผู้ป่วยของโรงพยาบาลเขาก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเพื่อนแท้สี่ขาทันที บ็อบและเชียร่ายิ้มหน้าบาน กระโดดโลดเต้น วิ่งหน้าตั้งพร้อมกับส่ายห่างดุ๊กดิ๊กเข้าไปหานายรักเพื่ออ้อนขอกอดและทวงถามว่าเป็นไงสบายดีมั้ยด้วยความห่วงใยราวกับมีแรงแม่เหล็กดึงดูดมหาศาล
.
กำลังใจและความรักมากมายจากสองน้องหมาที่แสนดีถูกเติมเต็มจนทำให้ร่างกายที่อ่อนแรงและหัวใจที่ห่อเหี่ยวจากอาการป่วยของชายผู้โชคร้ายกลับมามีกำลังวังชาและเบิกบานใจได้อีกครั้งเพียงชั่วเสี้ยววินาที
.
เช่นเดียวกับบ็อบและเชียร่า ความเหนื่อยล้าที่ต้องกังวลใจรอนายรักตลอดทั้งคืนก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง ทันทีที่ได้เห็นหน้าและถูกสัมผัสปลอบโยนจากนายรักอีกครั้ง
.
อย่างที่ทราบว่าบรรดาบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องทำงานในโรงพยาบาลต่างต้องแบกรับหน้าที่จัดการภาระงานที่หนัก เนื่องจากต้องดูแลชีวิตคนจัดการกับความเป็นความตายในทุก ๆ วัน แน่นอนว่าพวกเขาจึงต้องรับมือกับภาวะเครียดสะสม แต่เมื่อได้เห็นเรื่องราวความรักและความซื่อสัตย์ที่บ็อบและเชียร่ามีให้นายรัก มันกลับช่วยทำให้พวกเขามีกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่และรู้สึกหัวใจพองโตมีความสุขขึ้นได้มากด้วยเช่นกัน
.
“ถ้าสิ่งที่น้องหมาทั้งสองทำให้กับนายรักของพวกเขาไม่ใช่ความรัก ฉันก็ไม่รู้แล้วละว่ามันคืออะไร”
แพทริเชียกล่าว
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.