ขณะที่ “เอลลี่ สมิธ” (Elli Smith) ผู้ก่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Sky Sanctuary Rescue อยู่ระหว่างการช่วยเหลือน้องหมาจาก Arizona Humane Society ศูนย์พักพิงสัตว์ที่มีนโยบายการุณยฆาต ในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา สายตาของเธอก็สะดุดเข้ากับใบหน้าเล็ก ๆ ที่น่าสงสารของลูกหมาตัวหนึ่งที่กำลังต้องการความช่วยเหลือจากเธออย่างที่สุด
.
“ฉันมองออกไปที่บริเวณลานจอดรถ ก่อนจะเห็นผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มลูกหมาตัวน้อยที่นอนแน่นิ่งไม่ไหวติงเดินเข้ามาภายในศูนย์พักพิงสัตว์ด้วยความเร่งรีบและตื่นตระหนก ฉันคิดในใจว่า ‘ไม่นะ’ เพราะรู้ดีว่าที่นี่พวกเขามีนโยบายอย่างไรและฉันรู้ว่าในท้ายที่สุดแล้วลูกหมาตัวนี้จะต้องถูกการุณยฆาต”
เอลลี่กล่าว
.

.
หลังจากพิจารณาอยู่เพียงชั่วครู่เอลลี่ก็รีบเดินเข้าไปหาผู้หญิงที่ตื่นตระหนกคนนั้น ก่อนจะแนะนำตัวพร้อมได้ยื่นนามบัตรให้เผื่อว่าเธออาจจะกำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่
.
“หลังจากแนะนำตัวและมอบนามบัตรให้ ฉันก็เดินกลับมานั่งรอในรถพร้อมกับภาวนาในใจว่า ‘ได้โปรดโทรหาฉันที ได้โปรด’ เพราะฉันรู้ว่าถ้าเธอไม่โทรหาฉันลูกหมาตัวนั้นอาจจะไม่รอด ,10 นาทีหลังจากนั้น เธอก็โทรมาหาฉันจริง ๆ พร้อมกับบอกว่าพวกเขา (ศูนย์พักพิง) จะการุณยฆาตลูกหมาและฉันได้ตอบกลับเธอไปว่า 'ไม่ต้องห่วงฉันจะช่วยลูกหมาเอง' ฉันรับลูกหมาไว้แล้วพาไปที่โรงพยาบาลสัตว์ของสามีฉันทันที”
เอลลี่กล่าว
.

.
ก่อนจะแยกทางกัน หญิงผู้ตกอยู่ในอาการตื่นตระหนกเล่าให้กับเอลลี่ฟังว่าลูกหมาตัวน้อยมีชื่อว่า “เพเนโลพี” (Penelope) เธออายุได้เพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น ร่างกายของเธอกำลังเต็มไปด้วยเห็บหมัดนับร้อย เธอต้องได้รับการถ่ายเลือดในทันทีเพื่อให้ยังมีชีวิตรอด อย่างไรก็ตามนั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลใจเพราะเอลลี่มีผู้บริจาคเลือดที่สมบูรณ์แบบและพร้อมช่วยเสมอ
.
เอลลี่เร่งขับรถกลับบ้านก่อนจะเรียก “เมอร์ฟี” (Murphy) น้องหมาที่เธอรับอุปการะไว้ขึ้นรถพร้อมกับบอกเขาว่า "เราจะไปช่วยเพื่อนตัวน้อยกัน" หลังจากที่เมอร์ฟีกระโดดขึ้นรถพวกเขาก็ออกเดินทางไปที่โรงพยาบาลสัตว์ทันที ไม่กี่นาทีถัดมาเมอร์ฟีก็ได้พบกับเพเนโลพีลูกหมาตัวน้อยที่น่าสงสารครั้งแรกที่โรงพยาบาลสัตว์ เขามีท่าทีสนใจลูกหมาตัวน้อยมากเป็นพิเศษพยายามเดินเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อใช้จมูกดมสำรวจ จับจ้องด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและเป็นห่วง...
.
“เขาอยากรู้อยากเห็นมากว่าเจ้าตัวเล็กกำลังไม่สบายหรือเป็นอะไรกันแน่ถึงไม่ยอมลุกขึ้นมาเล่นกับเขา ”
เอลลี่กล่าว
.

.
เมอร์ฟีไม่ค่อยเข้าใจว่าเลือดในตัวของเขาจะสามารถช่วยชีวิตเพื่อนสัตว์ตัวน้อยได้อย่างไร แต่ทว่าทุกข้อสงสัยและความกังวลใจก็หมดไปเมื่อมีคุณแม่เอลลี่คอยเคียงข้างดูแลอยู่ใกล้ ๆ ไม่ห่าง เมอร์ฟี่เชื่อมั่นในตัวคุณแม่ เขายิ้มได้และให้ความร่วมมืออย่างดี ไม่นานนักเลือดเพียงไม่กี่หลอดของเมอร์ฟีก็ช่วยลูกหมาตัวน้อยที่กำลังป่วยหนักเอาไว้ได้สำเร็จ เธอค่อย ๆ ฟื้นตัวมีแรงขึ้นได้อีกครั้ง!
.
“คุณจะเห็นว่าสีเหงือกของเธอดูสดขึ้นและแววตาของเธอก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมากด้วยเช่นกัน นี่เป็นช่วงเวลาที่พิเศษมาก ฉันจินตนาการว่าเพเนโลพีจะต้องรู้สึกขอบคุณเมอร์ฟีมากแน่ ๆ หากเข้าใจว่าเมอร์ฟี่มีน้ำใจใช้เลือดส่วนหนึ่งในตัวเพื่อช่วยชีวิตเธอเอาไว้ เขาคือฮีโร่ของเธอเลยนะ”
เอลลี่กล่าว
.

.
หลังจากที่อาการของเพเนโลพีผ่านระยะวิกฤติ “เรเชล เฮนดริกส์” (Rachel Hendricks) ผู้จัดการโรงพยาบาลสัตว์ก็อาสาพาเพเนโลพีกลับไปดูแลต่อที่บ้านเพื่อจะได้มีเวลาดูแลได้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันเอลลี่ก็ไม่ลืมที่จะสืบหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อตามหาแม่ของเพเนโลพี...
.
ไม่กี่วันหลังจากนั้นเอลลี่ก็ได้พบแม่ของเพเนโลพีอย่างที่ตั้งใจ แม่หมามีชื่อว่า “พิทูเนีย” (Petunia) เป็นน้องหมาพันธุ์ผสม สถานะมีบ้าน แต่ทว่าเธอกลับไม่ได้รับการดูแลที่ดีอย่างที่ควรจะเป็น พิทูเนียต้องนอนอยู่บริเวณนอกบ้านรวมกับน้องหมาตัวอื่น ๆ ที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกันอีก 25 ตัว พิทูเนียมีหลุมดินเป็นเตียงนอน ไม่มีบ้านหลังเล็กอย่างน้องหมาตัวอื่น ๆ ชีวิตของเธอต้องทนนอนตากแดดตากฝนเรื่อยมา
.

.
หลังจากที่ได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของพิทูเนียและเหล่าน้องหมาอีก 25 ตัว เอลลี่ก็เกิดสงสาร เห็นใจและไม่สามารถเมินเฉยทอดทิ้งน้องหมาทั้ง 26 ตัวไว้ที่บ้านหลังนั้นแล้วเดินจากไปได้ เธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปเจรจากับเจ้าของพิทูเนียเพื่อขอสิทธิ์การเลี้ยงดูและพาน้องหมาทั้ง 26 ตัวกลับไปดูแล
.
การเจรจาไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวัง เจ้าของไม่ยอมมอบน้องหมาทั้ง 26 ตัวให้กับเอลลี่ แต่ทว่าความพยายามของเอลลี่ก็ไม่สูญเปล่าไปเสียทีเดียว เมื่อภายหลังเจ้าของกลับใจอ่อนยอมยกสิทธิ์การเลี้ยงดูน้องหมาบางตัวที่เจ็บป่วยซึ่งรวมถึงแม่หมาพิทูเนียให้กับเอลลี่
.

.
เอลลี่ช่วยพิทูเนียและน้องหมาที่เจ็บป่วยออกจากบ้านหลังนั้น ก่อนจะพากลับไปดูแลต่อที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ของเธอ ที่นั่นเหล่าน้องหมาได้รับตรวจสุขภาพ ช่วยกำจัดเห็บหมัดและแยกตัวเพื่อกักโรค ก่อนจะถูกย้ายเข้าไปอยู่รวมกับน้องหมาตัวอื่น ๆ ภายในศูนย์ฯ หลังจากสุขภาพร่างกายของพิทูเนียพร้อม เธอก็ได้พบหน้าเพเนโลพีลูกสาวสี่ขาตัวน้อยที่พลัดพรากอีกครั้ง!
.

.
เมื่อได้เห็นหน้าลูกหมาตัวน้อยแม่หมาพิทูเนียก็ไม่รีรอรีบเดินเข้าไปดมและเลียสำรวจกระทั่งมั่นใจว่าลูกหมาตัวน้อยเป็นลูกของเธอที่พลัดพราก จากนั้นสัญชาตญาณความเป็นแม่ก็เริ่มทำงาน พิทูเนียก็รีบมองหาที่เหมาะ ๆ เพื่อนอนลงให้เพเนโลพีคลานเข้าไปดูดนมทันที เห็นได้ชัดว่าแววตาของทั้งสองเปล่งประกายเปลี่ยนไปมาก ดูมีความสุขและอุ่นใจที่กลับมาอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันอีกครั้ง
.
“พิทูเนียเป็นน้องหมาที่น่ารักและร่าเริง เธอชอบนอนหงายท้องให้เราเกาพุงประจำเลย แน่นอนว่าเพเนโลพีเองก็ชอบได้รับการปลอบโยนจากเจ้าหน้าที่และโดยเฉพาะจากแม่ของเธอ”
เอลลี่กล่าว
.

.
พิทูเนียและเพเนโลพีจะได้รับการดูแลอย่างดีในบ้านผู้อุปถัมภ์จนกว่าเพเนโลพีจะมีอายุครบ 9-10 สัปดาห์ หลังจากนั้นลูกหมาตัวน้อยก็จะเตรียมตัวสำหรับการมีบ้านหลังใหม่ที่อบอุ่นและสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นได้ตลอดไป
.
ด็อกคลิปเอาใจช่วยนะเจ้าตัวเล็ก ^^
.
.
.
.
ช่วยกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ Dog’s Clip ด้วยนะครับ
หากมีประสบการณ์ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าเพื่อนสัตว์
อย่าลืมส่งมาแบ่งปันด็อกคลิปนะครับ เรื่องราวของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจ
หรือช่วยให้เหล่าเพื่อนสัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
กดเพื่อเข้าร่วมกลุ่มด็อกคลิป , กดเพื่อส่งเรื่องราวของคุณ หรือติดแฮชแท็ก #dogsclip
..................................................................
บทความโดย dogsclip.com
“บทความถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยสำนวนของด็อกคลิป บทความมีลิขสิทธิ์ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก และ หรือ ดัดแปลงนำไปเผยแพร่ต่อเพื่อสร้างรายได้ก่อนได้รับอนุญาต”
.
.